ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เปิดรับฟังความเห็น อัตราค่าไฟฟ้างวดใหม่เดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ ไปแล้วเมื่อวันที่ 8-22 มี.ค.67 โดยแบ่งเป็น 3 แนวทางคือ 1.ค่าไฟฟ้า 5.43 บาทต่อหน่วย ในกรณีจ่ายคืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งหมด 99,689 ล้านบาท ภายในงวดเดียว 2.ค่าไฟฟ้า 4.34 บาทต่อหน่วย กรณีจ่ายคืนหนี้ กฟผ. 4 งวด งวดละ 14,922 ล้านบาท และ 3.ค่าไฟฟ้าเท่าเดิม 4.18 บาทต่อหน่วย กรณีจ่ายคืนหนี้ กฟผ. 7 งวด งวดละ 14,000 ล้านบาทนั้น
โดยหลังจากนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) จะนำข้อมูลที่ได้จากการเปิดรับฟังความเห็นดังกล่าว เสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) กกพ.ที่จะประชุมวันที่ 27 มี.ค.นี้ เพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุดก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการ และให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ประกาศอัตราค่าไฟฟ้าผ่านเว็บไซต์ให้ประชาชนรับทราบต่อไป
สำหรับแนวโน้มค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ ที่บอร์ด กกพ.จะเลือก คือ 4.18 บาทต่อ หน่วย เท่ากับงวดปัจจุบัน หรืองวดเดือน ม.ค.-เม.ย. ส่วนงวดต่อไปคือ เดือน ก.ย.-ธ.ค. น่าจะใช้ อัตราเดียวกันที่ 4.18 บาทต่อหน่วยได้ หากราคาพลังงานโลกไม่เปลี่ยนแปลงมากเกินไป ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าของไทยมีเสถียรภาพได้ตลอดทั้งปีนี้ ด้วยการคงค่าไฟฟ้าไว้ และเปลี่ยนแปลงที่ยอดการใช้หนี้ กฟผ.แทน
นอกจากนี้ ในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ ก็มีแนวโน้มที่กระทรวงพลังงานจะยังคงเงื่อนไขการคิดค่าไฟฟ้าเป็น 2 แบบเช่นเดียวกับงวดปัจจุบัน คือ ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย จะคิด ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย และผู้ใช้เกิน 300 หน่วย จะคิดที่ 4.18 บาทต่อหน่วย โดยส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย เป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงานจะต้องหาเงินมาชดเชยให้ประชาชน ซึ่งล่าสุด กกพ.ได้หารือกับนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงานแล้ว โดยนายประเสริฐอยู่ระหว่างเตรียมเสนอของบจากรัฐบาล และจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติเร็วๆนี้ คาดว่าจะทันก่อนบิลค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค.จะประกาศใช้.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่