ผลยกแรกคะแนนนำ 80% "เกรียงไกร" มีลุ้นประธาน ส.อ.ท.สมัยที่ 2

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ผลยกแรกคะแนนนำ 80% "เกรียงไกร" มีลุ้นประธาน ส.อ.ท.สมัยที่ 2

Date Time: 26 มี.ค. 2567 09:06 น.

Summary

  • ศึกเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ วาระปี 2567-2569 ยกแรกเป็นการเลือกตั้งกรรมการ 244 คน แนวโน้มนับคะแนน “เกรียงไกร” นำ “สมโภชน์” ก่อนไปตัดสินครั้งสุดท้าย วันที่ 23 เม.ย.นี้

Latest

“พิชัย” เปิดเวทีชวนนักลงทุนเข้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้จัดประชุมสามัญประจำปี 2567 และเลือกตั้งคณะกรรมการ ส.อ.ท. วาระปี 2567-2569 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งกรรมการ ส.อ.ท.ทั้งหมด 244 คน จากนั้นกรรมการ ส.อ.ท.ในวาระ 2567-2569 ทั้งหมด 366 คน ที่มาจากประเภทเลือกตั้ง 244 คน และกรรมการประเภทแต่งตั้ง 122 คน (มาจากกลุ่มอุตสาหกรรม 46 คน และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ 76 คน) ที่เลือกตั้งเสร็จสิ้นตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งกรรมการเลือกตั้ง 244 คนจะมารวมกับกรรมการแต่งตั้ง 122 คน รวม 366 คน เพื่อมาเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ในวันที่ 23 เม.ย.นี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 18.30 น. ผลการเลือกตั้งกรรมการ 244 คน คาดว่าเป็นกลุ่มคนที่สนับสนุนนายเกรียงไกรประมาณ 75-80% หรือประมาณ 180-190 คน ขณะที่กรรมการประเภทแต่งตั้ง 122 คน คาดว่าเป็นฝั่งที่สนับสนุนนายเกรียงไกรกว่า 60% จึงมีแนวโน้มว่านายเกรียงไกร จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธาน ส.อ.ท.วาระที่ 2 ค่อนข้างสูง

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. วาระปี 2565-2567 กล่าวว่า ได้เดินทางมาถึงศูนย์ประชุมฯ เวลา 07.00 น. การประชุมประจำปี 2567 นี้ ถือว่ามีสมาชิกที่เดินทางมาร่วมงานคึกคักกว่าทุกๆปี แม้ว่าตามธรรมเนียมปฏิบัติของ ส.อ.ท.ตั้งแต่ก่อตั้งกรรมการจะดำรงตำแหน่งติดต่อกัน 2 วาระ รวม 4 ปี ทำให้ปีนี้ถือว่าอยู่นอกฤดูเลือกตั้ง

สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีจะไม่มีการดีเบตหรือแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ลงสมัครประธาน ส.อ.ท. แต่มีวาระการประชุม เพื่อสรุปผลการดำเนินงานของ ส.อ.ท.ในรอบปี 2566 โดยแต่ละปี ส.อ.ท.จะมีการจัดกิจกรรมกว่า 1,000 กิจกรรม โดยมีผลงานเด่นๆประมาณ 10 รายการ ที่จะนำเสนอให้ที่ประชุมรับทราบ โดยโครงการที่สำคัญและจะขับเคลื่อนต่อไปหากได้รับเลือกตั้ง คือการยกระดับและปรับโครงสร้างภาคการผลิตของประเทศ โดยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างสินค้าของคนไทย การผลักดันเรื่องกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (S-Curve) และอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อให้ประเทศไทยรักษาความสามารถในการเป็นฐานผลิตและเชื่อมโยงกับซัพพลายเชนระดับโลก อาทิ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี)

“เรื่องค่าไฟฟ้าที่เป็นต้นทุน ซึ่งไทยมีค่าไฟฟ้าแพงกว่าประเทศ เพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งยังเป็นประเด็นที่จะผลักดันต่อเนื่องในการพูดคุยกับภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อาทิ การปรับโครงสร้างและปรับสูตรแหล่งเชื้อเพลิงให้ไทยมีความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว ขณะที่โครงการเรือธงปี 2566 คือการจัดตั้งกองทุนนวัตกรรม (Innovation One) ที่ เป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของสมาชิกที่เป็นเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 1,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี และ ส.อ.ท.สมทบเข้ากองทุนอีก 1,000 ล้านบาท รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท ก็จะผลักดันต่อเนื่อง”

นายสมโภชน์ อาหุนัย รองประธาน ส.อ.ท.และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ลงสมัครเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่การเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท. แต่เป็นการเลือกตั้งกรรมการที่จะมีสิทธิเลือกประธานในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ตนได้แสดงวิสัยทัศน์และนโยบายต่อคณะกรรมการไปแล้ว โดยย้ำว่า ส.อ.ท.มีศักยภาพมาก เพราะรวบรวมผู้ประกอบการตั้งแต่รายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ ทุกคนมีความสามารถและความเชี่ยวชาญและรู้จริงในแต่ละเรื่อง ถ้าทุกคนทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์กและกำหนดทิศทางเป็นยุทธศาสตร์จะช่วยประเทศชาติได้มาก และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดดีกว่าต่างคนต่างทำ

“การประชุมครั้งนี้มีบรรยากาศที่ดี มีความคึกคัก สมาชิกมีความตื่นตัว สิ่งเหล่านี้จะนำพาให้ ส.อ.ท.เดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแรง และเป็นที่น่าเชื่อถือของสาธารณชนและรัฐบาลในอนาคต การเลือกตั้งถือเป็นการแข่งขันด้านความคิดและนโยบาย เป็นการเบรนสตอร์มแนวคิด โดยไม่ได้มีการวิจารณ์คนอื่น ทุกคนเป็นมืออาชีพ เชื่อว่าบรรยากาศการแข่งขันหลังจบการเลือกตั้ง มีบทสรุปชัดเจนก็จะผ่านไป ไม่ใช่ความขัดแย้งแตกแยก หากใครมีอุดมการณ์ที่ดีก็ควรนำไปใช้ต่อ”.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ