เจ.พี.มอร์แกน ชี้เป้าหุ้นไทย 1,700 จุด จีดีพีโต 3.7% เกินดุล บช.เดินสะพัด

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เจ.พี.มอร์แกน ชี้เป้าหุ้นไทย 1,700 จุด จีดีพีโต 3.7% เกินดุล บช.เดินสะพัด

Date Time: 27 ม.ค. 2567 06:01 น.

Latest

“ซื้อบ้าน” หลังแรก กับหลักวางแผนการเงิน รายได้เหยียบแสน แต่ไม่หยุด สร้างหนี้ใหม่ ก็อาจเป็นแค่ฝัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ.พี.มอร์แกน กลุ่มธุรกิจการเงินระดับโลก เผยมุมมองตลาดหุ้นไทย “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” (Overweight) จากแนวโน้มมาตรการผ่อนคลายการคลัง การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยได้เปิดเผยข้อมูลระหว่างการประชุม J.P. Morgan Thailand Conference ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯสัปดาห์นี้ โดยมีนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และนายวิรัตน์ ธัชศฤงคารสกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เข้าร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ นโยบายด้านพลังงานและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้า

นายมาร์โค สุจริตกุล เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสประจำประเทศไทยของ เจ.พี.มอร์แกน กล่าวว่า เจ.พี.มอร์แกนประเมิน GDP ไทยเติบโตถึง 3.7% ในปี 67 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ประเทศไทยมีการเติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตทั่วโลก บวกกับแนวโน้มมาตรการผ่อนคลายทางการคลังของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) และการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังปี 67 ทำให้เงินทุนส่วนหนึ่งไหลออกจากสหรัฐฯเพื่อหาผลตอบแทนจากสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งนี้ เจ.พี.มอร์แกนได้คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยจะขึ้นแตะระดับ 1,700 ในสิ้นปี “เรามีความมั่นใจตลาดหุ้นไทย แม้ภาวะการเงินโลกจะค่อนข้างตึงตัว โดยตลาดไทยมีความพร้อมหลายปัจจัย เช่น การเติบโตของ GDP ที่เข้มแข็ง และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลที่ดี ซึ่งจะช่วยให้สามารถต้านแรงจากทิศทางตลาดโลกได้ โดยบัญชีเดินสะพัดของไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวต่อเนื่องจากเงื่อนไขการค้าที่ดีขึ้น ราคาน้ำมันและค่าขนส่งที่ลดลง ความสมดุลของสินค้าหลักที่มั่นคง บวกกับการฟื้นตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว โดยคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเพิ่มขึ้นจาก 0.8% ของ GDP ในปี 66 เป็น 4.1% ของ GDP ในปี 67

นายมาร์โคกล่าวว่า การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะช่วยการจ้างงานภาคบริการ ส่งผลต่อการเติบโตของรายได้ในระดับปานกลาง โดยโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล 5 แสนล้านบาท รวมถึงนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายอื่นๆของภาครัฐ หากสำเร็จ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีกในประเทศ ส่วนเงินทุนที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยปีที่ผ่านมามากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯนั้น คาดว่าเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจะถึงจุดต่ำสุดในปี 67 และน่าจะค่อยไหลกลับเข้ามาลงทุนหุ้นไทย เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐด้านนโยบายการคลัง และ GDP ที่เติบโตได้ดี

นายจักรพันธ์ พรพรรณรัตน์ หัวหน้าสายงานวิจัยหลักทรัพย์ของ เจ.พี.มอร์แกน กล่าวว่า มีมุมมองเชิงบวกกับหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าฟุ่มเฟือยและหมวดสาธารณูปโภค และประเทศไทยกำลังก้าวไปอีกขั้นในการดึงดูดกระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะคิดเป็น 16% ของการผลิตยานยนต์ต่อปีทั้งหมดในไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ