จากกรณี ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายตั้งข้อสังเกตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของรัฐบาลนายกเศรษฐาว่าเป็น “การโกง GDP” เนื่องจากตัวเลขประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจในเอกสารงบประมาณ 2 ชุดไม่ตรงกัน
สร้างความสับสนให้กับประชาชนว่าการประมาณการเศรษฐกิจต้องอ้างอิงจาก Nominal GDP หรือ Real GDP
Thairath Money พาไขข้อสงสัย ให้หายสับสนถึงคำว่า “Nominal GDP” และ “Real GDP” แตกต่างกันอย่างไร สำคัญต่อเศรษฐกิจขนาดไหน ทำไมต้องเข้าใจให้ถูก
GDP (Gross Domestic Product) หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ เป็นเครื่องสะท้อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวม ที่วัดจากมูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ คำว่า “มูลค่าขั้นสุดท้าย” หมายถึง การไม่นับรวมวัตถุดิบและปัจจัยอื่นๆ ที่ใช้ในการผลิตสินค้านั้นๆ เพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำ โดยทั่วไปแล้ว GDP จะวัดเป็นรายไตรมาสหรือรายปี
เหตุผลที่เราต้องให้ความสำคัญกับ GDP เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในแต่ละปี ว่ามีการเติบโตขึ้น หรือลดลงเท่าใด ซึ่งจะทำให้รัฐบาล ธนาคารกลาง รวมถึงนักลงทุน สามารถประเมินภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันว่ามีเสถียรภาพมากเพียงใด รวมถึงประเมินทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตได้
ทั้งนี้ GDP แบ่งเป็น 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในรายละเอียดที่แตกต่างกัน ในที่นี้จะอธิบายความแตกต่างระหว่าง Nominal GDP และ Real GDP
Nominal GDP
คือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่เป็นตัวเงิน (Nominal GDP) โดยวัดจากมูลค่าของสินค้าและบริการที่ผลิตในปีนั้นๆ ซึ่งราคาสินค้าและบริการในแต่ละปีจะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ได้มีการเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ ซึ่งไม่ได้สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
กล่าวคือ GDP ที่เพิ่มขึ้นอาจมาจากราคาสินค้าและบริการในปีนั้นๆ ที่ปรับสูงขึ้น แต่ไม่ได้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในปริมาณหรือคุณภาพของสินค้าและบริการที่ผลิต
โดยทั่วไป Nominal GDP จะใช้ในการเปรียบเทียบผลผลิตที่เกิดขึ้นในปีเดียวกัน เป็นรายไตรมาส แต่เมื่อเปรียบเทียบ GDP 2 ปีขึ้นไป จะใช้ Real GDP
Real GDP หรือ GDP ที่แท้จริง
คืออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการผลิตหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริงโดยไม่นำผลของเงินเฟ้อเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งคำนวณจากปริมาณสินค้าและบริการที่ผลิตได้ในปีนั้นๆ คูณกับราคาสินค้าและบริการในปี 2531 ทำให้ตัวเลข GDP ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีสะท้อนจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว
โดย Real GDP เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สะท้อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แม่นยำกว่า Nominal GDP