ส่องอนาคต “ข้าวไทย” ต้นทุนสูง-พันธุ์ข้าวไม่ตอบโจทย์ เสี่ยงแข่งขันยาก บนเวทีโลก

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ส่องอนาคต “ข้าวไทย” ต้นทุนสูง-พันธุ์ข้าวไม่ตอบโจทย์ เสี่ยงแข่งขันยาก บนเวทีโลก

Date Time: 15 ธ.ค. 2566 14:08 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • ส่งออกข้าวไทย โค้งสุดท้ายคึกคัก คาดราคาข้าวพุ่งจากปี 2565 อานิสงส์อินเดีย จำกัดการส่งออก หวั่นปัญหาพันธุ์ข้าวไม่ตอบโจทย์ตลาด ต้นทุนสูงกว่าคู่แข่ง ฉุดความสามารถการแข่งขันเวทีโลก

Latest



ข้าวเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยสร้างรายได้เข้าประเทศหลักแสนล้านบาทต่อปี รวมถึงเป็นแหล่งรายได้ของเกษตรกรไทย ซึ่งมีจำนวนมากถึง 7 ล้านคน ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงปี 2562-2564 ตลาดข้าวไทยเผชิญปัญหารุมเร้าอย่างต่อเนื่อง จากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาดส่งออก จนส่งผลกระทบทำให้ปริมาณส่งออกอยู่ในระดับต่ำกว่าในช่วงปี 2557-2561 ค่อนข้างชัดเจน และส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในประเทศ

Krungthai COMPASS รายงานสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยโค้งสุดท้ายของปี 2666 และแนวโน้มธุรกิจส่งออกข้าวในปี 2567


ต้นทุนลด กำไรเพิ่ม ดันส่งออกข้าวคึกคัก

คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2566 การส่งออกข้าวไทยยังมีแนวโน้มที่ดี ส่งผลดีต่อรายได้โดยรวมของผู้เล่นในตลาดข้าว ตั้งแต่เกษตรกร โรงสี หยง รวมไปถึงผู้ส่งออกข้าว นอกจากนี้ ปัญหาต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่ผ่อนคลายลงช่วยพยุงความสามารถในการทำกำไรของอุตสาหกรรมข้าว โดยปัจจัยที่ทำให้การส่งออกปรับตัวดีขึ้น และต้นทุนการดำเนินงานของอุตสาหกรรมข้าวผ่อนคลายลง มีดังนี้

  1. ราคาข้าวตลาดโลกทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี
  2. ปริมาณการส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้น
  3. ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
  4. ปัญหาต้นทุนค่าขนส่งและปุ๋ยเคมีผ่อนคลายลง

ทั้งนี้ปริมาณส่งออกข้าวทั้งปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 8.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ส่วนราคาข้าวขาวโดยเฉลี่ยทั้งปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 547 ดอลลาร์ต่อตัน เพิ่มขึ้น 25.2% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยราคาข้าวขาวรายเดือนตั้งแต่ปี 2563-2565 ที่มีระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 464 ดอลลาร์ต่อตัน เนื่องจากอานิสงส์ของนโยบายการจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดีย

ทิศทางธุรกิจข้าวในปี 2567

ในปี 2567 คาดว่าปริมาณการส่งออกข้าวจะอยู่ที่ 8.6 ล้านตัน ใกล้เคียงกับในปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ราว 8.5 ล้านตัน จากอุปทานข้าวในตลาดโลกที่ยังตึงตัวจากปัจจัยเอลนีโญที่คาดว่าจะลากยาวไปจนถึงกลางปี 2567 ทำให้ประเทศคู่ค้าสำคัญยังคงมีการสะสมสต๊อกข้าว

แต่คาดว่านโยบายจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียที่ผ่อนคลายลง หลังจากสภาพอากาศในอินเดียที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จะทำให้อานิสงส์จากการที่ผู้นำเข้าข้าวหันมานำเข้าข้าวไทยทดแทนอินเดียทยอยหมดลง

ส่วนราคาส่งออกข้าวขาว 5% ในปี 2567 World Bank ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากสต๊อกข้าวโลกที่ยังมีแนวโน้มลดลง และปัญหาความมั่นคงทางอาหาร

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามผลกระทบจากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจทำให้ราคาส่งออกขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้

ต้นทุนสูง พันธุ์ข้าวไม่ตอบโจทย์ ฉุดความสามารถการแข่งขัน


ในระยะถัดไปธุรกิจข้าวไทยจะยังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างจากสายพันธุ์ข้าวที่เริ่มไม่เป็นที่ต้องการของตลาด และปัญหาการบริหารจัดการสต๊อกข้าวอย่างโปร่งใส แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ในการเป็นหลักประกันสินเชื่อ รวมทั้งต้นทุนการผลิตข้าวที่สูงกว่าคู่แข่งทำให้แข่งขันด้านราคาลำบาก อีกทั้งเผชิญปัญหา Climate Change ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

Krungthai COMPASS แนะนำธุรกิจข้าวไทยควรมุ่งพัฒนาการผลิตข้าวยั่งยืนและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์เทรนด์โลกที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งภาครัฐควรเป็นแรงขับเคลื่อนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในธุรกิจข้าว อีกทั้งผู้ประกอบการควรเน้นตลาดนำการผลิต และขยายฐานตลาดให้ใหญ่ขึ้นโดยแปรรูปให้เป็นสินค้ามูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์