เช็กด่วน ธ.ก.ส.โอน “เงินช่วยชาวนา” ไร่ละ 1,000 บาท ช่วยเกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือน เริ่มจ่ายวันนี้

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เช็กด่วน ธ.ก.ส.โอน “เงินช่วยชาวนา” ไร่ละ 1,000 บาท ช่วยเกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือน เริ่มจ่ายวันนี้

Date Time: 28 พ.ย. 2566 17:46 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • ธ.ก.ส. เริ่มโอนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท แบ่งโอนเป็น 5 งวด เริ่มตั้งแต่ 28 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป พร้อมหนุนมาตรการคู่ขนานในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกและเสริมสภาพคล่องชาวนา

Latest


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ในกิจกรรมส่งมอบเงินตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิต เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ เป็นวันแรก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้และสภาพคล่องในการใช้จ่าย รวมถึงการพัฒนาคุณภาพผลผลิตข้าวให้สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น

 

โดยวางแผนการโอนเงินส่งถึงมือเกษตรกร เป็นรายภูมิภาค แบ่งเป็น 5 ครั้ง เป้าหมายเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงินรวม 54,336 ล้านบาท  


ทำให้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการ ธ.ก.ส เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายรัฐบาลผ่านโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67


ไทมไลน์ ธ.ก.ส โอนเงินช่วยเหลือชาวนา 


โดยแผนการโอนเงินให้เกษตรกร เป็นรายภูมิภาค แบ่งเป็น 5 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ 28 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดการโอนเงินดังนี้ 

  • ครั้งที่ 1 วันที่ 28 พ.ย. 2566 วงเงิน 7,989 ล้านบาท แก่เกษตรกร 6.2 แสนครัวเรือน ในพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 77 จังหวัด
  • ครั้งที่ 2 วันที่ 29 พ.ย. 2566 วงเงิน 8,408 ล้านบาท แก่เกษตรกร 7.4 แสนครัวเรือน ในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 17 จังหวัด
  • ครั้งที่ 3 วันที่ 30 พ.ย. 2566 วงเงิน 9,480 ล้านบาท แก่เกษตรกร 8.7 แสนครัวเรือน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10 จังหวัด
  • ครั้งที่ 4 วันที่ 1 ธ.ค. 2566 วงเงิน 9,277 ล้านบาท แก่เกษตรกร 7.7 แสนครัวเรือน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 5 จังหวัด
  • ครั้งที่ 5 วันที่ 2 ธ.ค. 2566 วงเงิน 9,282 ล้านบาท แก่เกษตรกร 8.2 แสนครัวเรือน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 5 จังหวัด 

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง จะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่านบริการ BAAC Connect ทาง Line: BAAC Family และ https://chongkho.inbaac.com อีกด้วย

เปิดมาตรการคู่ขนาน รักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก


นอกจากนี้ ในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว รัฐบาลได้มอบนโยบาย 

ในการจัดทำมาตรการคู่ขนาน เพื่อดูแลและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกแบบครบวงจร ได้แก่

1. สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี

วงเงินรวม 34,000 ล้านบาท สำหรับปีการผลิต 2566/67 เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว โดยไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและราคาตกต่ำ 


โดยรัฐบาลรับภาระในการชำระดอกเบี้ยแทนเกษตรกร และ ธ.ก.ส. ยังพร้อมสนับสนุนค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้เกษตรกรอีก 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรเก็บข้าวเอง จะได้รับ 1,500 บาทต่อตัน 


กรณีเกษตรกรฝากข้าวกับสถาบันเกษตรกร เกษตรกรจะได้รับ 500 บาทต่อตัน และสถาบันฯ จะได้รับ 1,000 บาทต่อตัน สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อย สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีได้ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) 


2. สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร


วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท สำหรับปีการผลิต 2566/67 โดยสหกรณ์การเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก และเกษตรกรทั่วไป โดยสถาบันฯ ชำระดอกเบี้ยเพียง ร้อยละ 1 ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลรับภาระชำระแทน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศหรือ Call Center 0-2555-0555


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์