ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงานกิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท เป็น 21-22 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกมีการปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ล่าสุด ประชาชนตื่นตัวไปหาซื้อน้ำตาลจำนวนมาก ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ซุปเปอร์มาร์เกตหลายแห่งขาดแคลนหรือมีการจำกัดปริมาณการซื้อ
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจดูแลสถานการณ์น้ำตาล โดยพบว่าบางพื้นที่อาจมีปัญหาตึงตัวบ้าง เนื่องจากประชาชนมีการซื้อไปใช้เพิ่ม ประกอบกับขณะนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทำให้ร้านค้าอาจติดขัดด้านการบริหารจัดการและการขนส่ง กรมได้เข้าไปช่วยดูแลแก้ไขอย่างใกล้ชิด มั่นใจว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็วๆนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าน้ำตาลยังมีเพียงพอ ไม่ขาดแคลน
สำหรับการปรับขึ้นราคาน้ำตาลครั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.พาณิชย์ มีนโยบายกำกับดูแลให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล โดยผู้บริโภคไม่รับภาระมากจนเกินไป และต้องเห็นใจเกษตรกร ที่เป็นผู้ผลิตต้นทางและดูแลให้มีรายได้ที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุน แม้การปรับขึ้นราคา ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าต่างๆ ที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบ สูงขึ้นบ้าง เช่น นมและผลิตภัณฑ์ น้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ปลากระป๋อง ซอสปรุงรส ซีอิ๊ว ฯลฯ แต่กรมยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้า เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่