ไม่จ่ายค่าโง่ 2.4 หมื่นล้าน ศาลสั่งเพิกถอนรัฐพลิกชนะคดีโฮปเวลล์

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ไม่จ่ายค่าโง่ 2.4 หมื่นล้าน ศาลสั่งเพิกถอนรัฐพลิกชนะคดีโฮปเวลล์

Date Time: 19 ก.ย. 2566 05:54 น.

Summary

  • “สุริยะ” เป็นปลื้มคมนาคมไม่ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน หลังศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโต ตุลาการ เหตุเอกชนยื่นฟ้องคดีหลังพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ด้าน “สุริยะ” สั่งฝ่ายกฎหมายหาข้อมูลรอบด้านเพิ่มเติมซัพพอร์ต

Latest

เจ้าหนี้การบินไทยขอเลื่อนโหวตแผนฟื้นฟู

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ หลังรับพิจารณาคดีใหม่ ว่า ในเรื่องดังกล่าวถือเป็นสัญญาณข่าวที่ดีที่ทำให้กระทรวงคมนาคม และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย พร้อมดอกเบี้ยให้กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวนกว่า 24,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลเพื่อสนับสนุนถึงเหตุผลที่กระทรวงคมนาคมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามผลอนุญาโตตุลาการ ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังจากนี้ขั้นตอนก็ต้องรอศาลปกครองสูงสุดพิจารณาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 18 ก.ย.66 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่สั่งให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศ ไทย) จำกัด จากการที่ รฟท.บอกเลิกสัญญารวมเป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท เงินค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์ที่ดินที่บริษัทชำระไปแล้ว 2,850 ล้านบาท และเงินค่าออกหนังสือค้ำประกัน 38,749,800 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี และคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท หลังมีการพิจารณาคดีใหม่ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2565 โดยศาลปกครองกลางเห็นว่า โฮปเวลล์ ยื่นฟ้องคดีพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการพ้นกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ศาลให้เหตุผลว่า การที่มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ เนื่องจาก โฮปเวลล์ฯ ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2541 จึงมีสิทธิที่จะเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการได้อย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 30 ม.ค.2546 แต่โฮปเวลล์ฯกลับยื่นคำเสนอข้อพิพาท เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2547 ดังนั้นจึงพ้นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการเสนอข้อพิพาทตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ.2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวไป 1 ปี 9 เดือนเศษ ดังนั้นสิทธิเรียกร้องของบริษัท โฮปเวลล์ฯ จึงขาดอายุความ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าว ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2562 ให้คมนาคม และ รฟท. ต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ โดย รฟท.ต้องคืนเงินชดเชยให้กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญา โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับคดีถึงที่สุด จากนั้น กระทรวงคมนาคม กับ รฟท.ได้ยื่นขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ เนื่องจากเห็นว่าโฮปเวลล์ฯมีการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการขาดอายุความตามกฎหมายไปแล้ว และในวันที่ 4 มี.ค.2562 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้รื้อฟื้นคดีตามคำร้องของกระทรวงคมนาคมและ รฟท. ก่อนที่วันนี้ ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯดังกล่าว เป็นผลให้ กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ยังไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับโฮปเวลล์ฯ จากการบอกเลิกสัญญา ขณะที่โฮปเวลล์ฯ ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ในคดีต่อศาลปกครองสูงสุดได้อีก ภายใน 30 วัน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ