นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากที่มีการประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 รอบอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ต่อมากระทรวงการคลังได้ตรวจสอบ พบว่า ผลการพิจารณาคุณสมบัติด้านอสังหาริมทรัพย์ สำหรับรอบอุทธรณ์ยังไม่ครบถ้วน จึงได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของคุณสมบัติด้านอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง
กระทั่งเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 และวันที่ 28 สิงหาคม 2566 จึงได้มีการประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ผ่านเกณฑ์กลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม พบว่า มีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม จำนวน 1,830 ราย และ 114 ราย ตามลำดับ
โดยผู้ที่ยื่นอุทธรณ์ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 เพิ่มเติม และดำเนินการเสร็จสิ้นตามขั้นตอน ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 สามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
ตรวจสอบผลอุทธรณ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566
- ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
- ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่
สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา - โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
ผู้ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยจะต้องนำบัตรประจำตัว ประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ด้วยซึ่งการให้บริการยืนยันตัวตนจะเป็นไปตามวันและเวลาทำการของธนาคาร
- เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงานได้ในวันถัดไป
- ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อเป็นการเตรียมการรองรับการรับสิทธิสวัสดิการ โดยสามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารใดก็ได้ ทั้งนี้การผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิสามารถรับสิทธิสวัสดิการในกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
- ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติมทั้ง 2 รอบสามารถดำเนินการยืนยันตัวตนตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรายละเอียด วันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้และสิทธิย้อนหลัง ดังนี้
ผู้ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งประกาศผลเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566
และดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566
แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนดโดยมีรายละเอียดวันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้สิทธิได้ และสิทธิที่ได้ย้อนหลังดังนี้
ผู้ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งประกาศผลเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566
และดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 28 สิงหาคม–26 กันยายน 2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการ ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566
แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 กันยายน 2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรายละเอียดวันที่ยืนยันตัวตน วันเริ่มใช้สิทธิได้ และสิทธิที่ได้ย้อนหลังดังนี้