“อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เฟส” กระหึ่ม ททท.ชี้ “ซอฟต์ เพาเวอร์” ดึงนักท่องเที่ยวได้ผล

ททท.ย้ำแผนสื่อสารการตลาดเดินมาถูกทาง หลังพบนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติตอบรับการนำเสนอซอฟต์เพาเวอร์ 5F เพราะจับต้องได้ง่ายและอยู่ในกระแสนิยม เผยต่างชาติล้นหลามร่วมงาน Amazing Thailand Fest 2023 ในสหรัฐฯ และสเปน หลังนำซอฟต์ เพาเวอร์ของไทยไปโชว์ในงาน

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ผลจากที่ ททท.ได้วางทิศทางการสื่อสารการตลาดในปี 2566 นำเสนอสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการนำส่งประสบการณ์ของประเทศไทยในมุมมองใหม่ผ่านซอฟต์เพาเวอร์ 5F ได้แก่ Food : อาหาร, Film : ภาพยนตร์, Fashion : การออกแบบแฟชั่นไทย, Fight : ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และ Festival : เทศกาลประเพณีไทย ผลที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก ช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ วางแผนเดินทางท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน อย่างไร และจะทำอะไรได้บ้าง

“ซอฟต์ เพาเวอร์ 5F ถือว่าเป็นเสน่ห์และเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งคนไทยและต่างชาติรู้สึกว่าจับต้องได้ง่ายและอยู่ในกระแสนิยม เมื่อเทียบกับในอดีต ททท.พยายามส่งเสริมทุกอย่างและในหลายกรณีข้อมูลค่อนข้างเยอะ แต่พอนำกลยุทธ์ 5F ซอฟต์ เพาเวอร์มาใช้ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวดีมาก นักท่องเที่ยวเข้าใจมากขึ้น กลายเป็นว่า 5F เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวพกติดตัวในความจำ ช่วยให้ ททท.จัดกิจกรรมต่างๆ โดยเอา 5F เป็นตัวหลักในการนำเสนอได้ง่ายขึ้น และทำให้ Amazing Thailand กลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง”

ต่อยอดปรากฏการณ์ “กางเกงช้าง”

นายฉัททันต์ กล่าวว่า ประเทศอื่นๆมีการใช้ซอฟต์ เพาเวอร์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเช่นกัน บางประเทศใช้ละครทีวี บางประเทศใช้เพลง และบางประเทศใช้แฟชั่น สำหรับประเทศไทยนับว่าโชคดีที่มีความหลากหลายของสินค้าทำให้มีซอฟต์ เพาเวอร์ ไปนำเสนอได้ 5 ประเภท

“5F ตัวที่โดดเด่นที่สุด ขึ้นอยู่กับกลุ่มประเทศ เช่น ในไทยเองก็ไม่ได้ตอบรับทุกตัว โดนเด่นที่สุดน่าจะเป็น Food เพราะอาหารไทยที่ไปวางรากฐานไว้ดีมากในต่างประเทศ เดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็มีอาหารไทย แม้กระทั่งในเมืองเล็กๆก็มีร้านอาหารไทย จึงเป็นซอฟต์ เพาเวอร์ที่คนคุ้นเคยและเข้าหาได้ง่าย ขณะที่ Festival ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมองสงกรานต์และลอยกระทงของไทยเป็นเทศกาลระดับโลกที่ทุกคนอยากมาเที่ยว

ส่วน Fashion ที่กลายเป็นปรากฏการณ์แปลกมหัศจรรย์ คือ ความนิยมกางเกงช้างของชาวต่างชาติ ซึ่ง ททท.รีบต่อยอดความนิยมนี้ทันที เช่นทำเป็นของแจกสำหรับการเล่นเกม แม้กระทั่งแฟชั่นโชว์ที่ใช้กางเกงช้างก็เคยทำมาแล้วและนำไปสู่ความรู้จักผ้าพื้นถิ่น ผ้ามัดย้อม ผ้าบาติก ที่มีในแต่ละภูมิภาคด้วย”

จัดเทศกาลงาน “วัดไทย” ในต่างแดน

นายฉัททันต์กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นปี 2566 ททท. ได้นำ 5F ไปนำเสนอผ่านโครงการ Amazing Thailand Fest 2023 เพื่อกระตุ้นการเดินทางและสร้างการรับรู้ในตลาดต่างประเทศ โดยกำหนดจัดงาน 4 ครั้ง ครั้งแรกที่ The Oculus-World Trade Center นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3-4 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา มีผู้ร่วมงานกว่า 30,000 คน ครั้งที่สองจัดไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.-2 ก.ค.2566 ที่ Plaza De la Rosa Dels Vents นครบาร์เซโลนา สเปน มีผู้ร่วมงานกว่า 10,000 คน และจะมีการกำหนดจัดงานอีก 2 ครั้งในวันที่ 21-23 ก.ค.2566 ณ ศูนย์การค้า Abeno Q’s Mall นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น และวันที่ 19-20 ส.ค.2566 ณ Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ประเทศออสเตรเลีย

“รูปแบบการจัดงานเพื่อให้คนในพื้นที่มาเที่ยวได้จะได้สัมผัสกลิ่นอายของความเป็นไทย ผ่าน 5F ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย การเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทย การจัดบรรยากาศงานเทศกาล เช่น ที่บาร์เซโลนา เหมือนงานวัดมีการเล่นเกม มีสาธิตมวยไทย รำไทย ซึ่งมีผลตอบรับดีมากจากการจัดงานสองครั้งที่ผ่านมา บางคนจองตั๋วมาไทยแล้วมาหาข้อมูลประเทศไทยเพิ่ม ททท.จัดงานนี้ช่วงวันหยุด มีทั้งคนที่เดินทางมาเองและมาจากการโปรโมต บางคนเดินผ่านเห็นก็แวะเข้ามา แม้กระทั่งที่บาร์เซโลนาเผอิญการจัดงานอยู่ในพื้นที่ติดกับโรงแรม 5 ดาวทำให้มีแขกที่พักในโรงแรมมาเที่ยว เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้คาดหวัง แล้วก็พบพวกแฟนพันธุ์แท้ประเทศไทย หลายคนมาไทยหลายรอบแล้วก็มาร่วมในงานนี้เพราะชอบเมืองไทย”

ความสุขทันใจ เที่ยวไทยไม่ต้องรอ

สำหรับทิศทางการสื่อสารในปี 2567 ททท.ยังคงใช้ 5F เป็นสินค้าหลักที่ต้องนำเสนอ และยังเล่นในเรื่องของความรู้สึกของคนเวลาเดินทางท่องเที่ยวในไทย ในประเทศตอนนี้ ททท.มีแคมเปญการสื่อสารการตลาดในประเทศ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ในแนวคิด “โมเมนต์ ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ” ซึ่งได้ผลเพราะผลักดันให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวทันที

ขณะที่ปี 2567 ยังใช้แนวคิดเดิมแต่เน้นการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบความสุขทันใจ ไม่ต้องรอ ออกไปหาโมเมนต์แห่งความสุข ต่อเนื่องจากปี 2566 เพราะการท่องเที่ยวเป็นวิธีสร้างความสุขที่ดีที่สุด สามารถสร้างความสุขตั้งแต่วางแผนการเดินทาง ระหว่างการเดินทาง และ หลังจากการเดินทาง จากการบอกเล่าความประทับใจ มุ่งชวนนักท่องเที่ยวออกไปหาความสุขทันใจ เที่ยวไทยไม่ต้องรอ

ส่วนตลาดต่างประเทศ นำเสนอแคมเปญ “Meaningful Relationship” ชวนนักท่องเที่ยวมาสร้างประสบการณ์เดินทางที่มีความหมาย ผ่านการให้และการรับ (Give&Get) ที่ประเทศไทย โดยอาจเริ่มจากการให้ในสิ่งเล็กๆน้อยๆ เช่น รอยยิ้มหรือคำชมเชย อยากให้ชาวต่างประเทศที่มาเที่ยวประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ได้สร้างเพื่อนใหม่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน บริกรในโรงแรม หรือบริษัททัวร์ หรืออาจจะเป็นความสัมพันธ์กับธรรมชาติของประเทศไทย

“เรามุ่งเน้นตรงนี้และชักชวนชาวต่างประเทศเวลามาเมืองไทยให้เปิดใจ เผื่อจะมีความสัมพันธ์แบบไม่คาดคิดมาก่อน ถ้าทำได้จะเกิดผลสองอย่างคือคนจะเดินทางกลับมาอีกเพราะรู้สึกอบอุ่นมีเพื่อนที่นี่ และอาจรู้สึกอยากอยู่เมืองไทยยาวขึ้นเป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการของไทยและชาวบ้านท้องถิ่นด้วย”

นอกจากนี้ ในปี 2567 ททท. ได้วางแนวทางในการทำงานเพื่อสื่อสารให้ครอบคลุมพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่มีความเฉพาะมากขึ้น โดยผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกผ่านแคมเปญ Brand Collaboration : Amazing Thailand x 5F เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของซอฟต์ เพาเวอร์ ของประเทศไทยผลักดันให้คนไทยท่องเที่ยวไทยอย่างคึกคักตลอดทั้งปี และขอเชิญเอกชนที่สนใจมาสร้างโปรโมชันร่วมกันด้วย.