ลุ้นอีกเฮือก! “เอ็น 3-แอล 6” สลากดิจิทัลตั้งเป้าเพิ่มให้ถึง 30 ล้านใบปีนี้

คอหวยลุ้น ครม. เคาะร่างประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ เอ็น 3 และแอล 6 สู้หวยใต้ดินพร้อมเพิ่มจำนวนหวยดิจิทัล ตั้งเป้าหมาย 30 ล้านใบปีนี้ เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนซื้อสลากได้ใบละ 80 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค.66 กระทรวงการคลังได้เสนอรายละเอียดร่างประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในการออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สลากเลข 3 หลัก หรือเอ็น 3 (N3) และลอตเตอรี่ 6 หรือแอล 6 (L6) ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาอีกครั้ง หลังจากเมื่อเดือน มี.ค.66 ครม.ได้เห็นชอบในหลักการให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไปดำเนินการเกี่ยวกับแอล 3 และแอล 6 ไปแล้ว

สำหรับการนำเสนอร่างประกาศผลิตภัณฑ์สลากใหม่เข้า ครม. ในรอบนี้ เป็นการเสนอในส่วนของรายละเอียดของประกาศเท่านั้น หลังจากผ่านการตรวจสอบเนื้อหาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วซึ่งสามารถดำเนินการได้ แม้อยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ เพราะเรื่องนี้ ครม.ได้เห็นชอบไปแล้วตั้งแต่ก่อนยุบสภา จึงไม่ใช่เป็นเรื่องอนุมัติกฎหมายใหม่แต่อย่างใด โดยการออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่

แอล 6 กับเอ็น 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มทางเลือกการซื้อสลากรูปแบบใหม่แก่ประชาชน รวมถึงแก้ปัญหาสลากขายเกินราคา และช่วยบรรเทาปัญหาหวยใต้ดิน โดยหากผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว จะช่วยให้สำนักงานสลาก สามารถเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลเข้ามาในระบบได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มการจัดเก็บรายได้ให้กับรัฐบาลได้ในอนาคต

ส่วนรูปแบบของสลากเลข 3 หลัก หรือเอ็น 3 เป็นสลากรูปแบบใหม่ โดยวิธีการเล่นนั้นให้เลือกหมายเลข 000 ถึง 999 จำนวน 1 หมายเลขต่อการเลือกซื้อ 1 ครั้ง ราคายังไม่กำหนด แต่คาดขายครั้งละ 20-50 บาท มีลุ้น 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลสามตรง ตรงเลข-ตรงหลัก หรือเต็ง ได้ 30% ของเงินรางวัล, รางวัลสามสลับหลัก ตรงเลข-สลับหลัก หรือโต๊ด ได้ 30% ของเงินรางวัล, รางวัลสองตรง ได้ 39% และรางวัลพิเศษ 1% โดยเงินรางวัลทั้งหมดจะนำมาจาก 60% ของยอดขายในแต่ละงวด หากงวดใดมีผู้ถูกรางวัลหลายคน จะต้องหารเฉลี่ยกันตามสัดส่วนวงเงินที่กำหนด ยิ่งถูกน้อย ยิ่งหารน้อย ยิ่งถูกมาก ยิ่งหารมาก

อย่างไรก็ตาม หากงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำเงินรางวัลมาสมทบเป็นแจ็กพอต แต่สมทบเงินรางวัลได้ไม่เกิน 1 งวด สำหรับการออกรางวัล จะออกเดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ส่วนวิธีการขาย อาจเปิดรับสมัครคนขายใหม่ เช่น ขายผ่านแท็บเล็ต แอปพลิเคชัน เป็นต้น

ขณะที่รูปแบบสลากแอล 6 มีลักษณะการซื้อขายเหมือนลอตเตอรี่ในปัจจุบัน เพียงแต่ไม่ต้องพิมพ์เป็นใบออกมาจำหน่าย จะเน้นขายผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยการออกรางวัลเดือนละ 2 งวด ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ขายใบละ 80 บาท รางวัลที่ 1 ได้ 6 ล้านบาท รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 ได้ 100,000 บาท รางวัลที่ 2 ได้ 200,000 บาท รางวัลที่ 3 ได้ 80,000 บาท รางวัลที่ 4 ได้ 40,000 บาท รางวัลที่ 5 ได้ 20,000 บาท รางวัลเลขหน้า 3 ตัว ได้ 4,000 บาท รางวัลเลขท้าย 3 ตัว ได้ 4,000 บาท และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ได้ 2,000 บาท

สำหรับสลากดิจิทัลในปัจจุบัน จะต้องพิมพ์เป็นใบออกมาก่อน แล้วนำมาสแกนเข้าสู่ระบบดิจิทัล แต่เมื่อไม่ต้องพิมพ์เป็นใบแล้ว สำนักงานสลากฯ สามารถเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลได้ โดยปัจจุบันสลากดิจิทัลอยู่ที่ 19.64 ล้านใบ และจะทยอยเพิ่มขึ้น คาดว่าจะอยู่ที่ 25-30 ล้านใบในปีนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนซื้อสลากได้ใบละ 80 บาท ปัจจุบันมีผู้ซื้อสลากดิจิทัลในแต่ละงวดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน อย่างไร ก็ตามปัญหาขายสลากเกินราคาใบละ 80 บาทไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด เพราะการซื้อสลากเลขเด็ด เลขดัง เลขคนนิยม ราคาแพงเท่าใดก็ยอมจ่าย ถือเป็นการสมยอมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย.