นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยมีอาการออฟฟิศซินโดรม หรือการเจ็บป่วยจากการทำงาน รวมถึงมีอาการบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อ และกระดูกที่อาจเกิดจากการเล่นกีฬา หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆมากขึ้น ส่งผลให้คลินิกกายภาพบำบัดที่ให้บริการรักษาหลากหลายวิธี เช่น การใช้ความร้อนแสง เสียง ไฟฟ้า การดัด การดึง การนวด การบริหารร่างกาย การใช้เครื่องมือทางกายภาพชนิดต่างๆ เพื่อฟื้นฟู ป้องกัน ปรับปรุง แก้ไขสมรรถภาพของร่างกายที่เสื่อมสภาพให้กลับสู่ปกติ ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า มีแบรนด์กีฬาที่มองเห็นถึงโอกาสในการต่อยอดธุรกิจไปสู่ธุรกิจด้านสุขภาพ ได้เข้ามาลงทุนจัดตั้งคลินิกกายภาพบำบัด และศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาขนาดใหญ่ในไทย ซึ่งเป็นการเสริมธุรกิจด้านกีฬาที่ดำเนินกิจการอยู่ ทำให้สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร รวมทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้สินค้าและบริการ เพื่อขยาย/ต่อยอดสินค้าและบริการ สร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยธุรกิจนี้ยังคงมีที่ว่างสำหรับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ที่จะเข้าสู่ตลาด
ทั้งนี้ ธุรกิจกายภาพบำบัดมีการจัดตั้งธุรกิจใหม่และผลประกอบการเพิ่มขึ้นมาก โดยปี 66 ช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. จัดตั้ง 22 ราย เพิ่มขึ้น 5 รายจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่ถึง 98% เป็นการลงทุนของคนไทย มูลค่าการลงทุน 1,632.31 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติสูงสุด คือ จีน 14.85 ล้านบาท ตามด้วยอเมริกัน 5.41 ล้านบาท ญี่ปุ่น 5.24 ล้านบาท เป็นต้น ขณะที่รายได้รวมของธุรกิจปี 64 รายได้รวม 417.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.41 ล้านบาท กำไร 37.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.94 ล้านบาท.