สรรพสามิต ทำลายบุหรี่หนีภาษี 638,519 ซองแบบ Zero Waste ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สรรพสามิต ทำลายบุหรี่หนีภาษี 638,519 ซองแบบ Zero Waste ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม

Date Time: 9 พ.ค. 2566 21:27 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • กรมสรรพสามิตเดินหน้ายุทธศาสตร์ EASE Excise เน้น ESG ทั้งระบบ ทำลายบุหรี่หนีภาษีของกลาง 638,519 ซอง มูลค่า 130 ล้าน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

Latest


กรมสรรพสามิตเดินหน้ายุทธศาสตร์ EASE Excise เน้น ESG ทั้งระบบ ทำลายบุหรี่หนีภาษีของกลาง 638,519 ซอง มูลค่า 130 ล้าน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.66 ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ตามที่กรมสรรพสามิตได้เปิดศูนย์ปราบปราบสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ นำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงาน ตามยุทธศาสตร์ EASE Excise ในการยกระดับเดินหน้าปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้เสียภาษี ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ค้าขายอย่างสุจริตให้ได้รับความเป็นธรรม

รวมถึงยังเป็นการดูแลผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยและได้สินค้าที่มีคุณภาพ ทำให้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.65 ถึง 31 มี.ค.66) กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมคดีสินค้ายาสูบจากทั่วประเทศได้จำนวนมากถึง 4,809 คดี จำนวน 638,519 ซอง เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 130,000,000 บาท ส่งผลให้มีปริมาณของกลางยาสูบเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากคดีสิ้นสุดแล้ว จะต้องมีการดำเนินการทำลายของกลางให้ไม่สามารถนำกลับมาบริโภคได้อีก

อย่างไรก็ดี ในการทำลายยาสูบของกลางนั้น ต้องคำนึงวิธีการที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ไม่เพียงแค่ควันบุหรี่ที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ แต่ส่วนอื่นๆ ของบุหรี่ยังส่งผลกระทบด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ด้วยยุทธศาสตร์ของกรมสรรพสามิต EASE Excise ที่มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) กรมสรรพสามิตจึงได้มีแนวคิดที่จะนำของกลางยาสูบมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมองในมิติต่างๆ ดังนี้

- มิติด้านสิ่งแวดล้อม หรือ Environment ในการลดมลภาวะ จากเดิมในการจัดการของกลางยาสูบ ด้วยวิธีการเผาทำลาย ซึ่งในบุหรี่ 1 มวน ประกอบด้วย ใบยาสูบ กระดาษที่ใช้มวน และสารเคมีหลายร้อยชนิด เมื่อเกิดการเผาไหม้จะทำให้เกิดสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และปัญหาการเผาทำลาย นำมาซึ่งการเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนอีกด้วย

เราจึงได้มีการนำนวัตกรรม การจัดการของกลางยาสูบมาใช้ ด้วยการสร้างเครื่องทำลายของกลางยาสูบต้นทุนต่ำ หนึ่งในตัวอย่างจากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว ซึ่งได้นำมาสาธิตให้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ จังหวัดนครนายก โดยนำเลื่อยวงเดือนมาติดตั้งบนโต๊ะเพื่อตัดทำลายพร้อมคัดแยกก้นกรองและยาสูบออกจากกัน มีการติดตั้งเครื่องดูดและถังกักเก็บฝุ่นละออง เพื่อลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ สามารถตัดทำลายของกลางยาสูบทั้งแบบซองแข็งและซองอ่อนได้ทั้ง carton อย่างต่อเนื่อง ใช้แรงงานควบคุมเพียง 1 คน และใช้เวลาในการตัดทำลาย เพียง 3 วินาที ต่อ 1 carton มีประสิทธิภาพกว่าเดิมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก ตัดทำลายได้คราวละ 1 ซอง ใช้เวลาในการตัดทำลาย 10 นาที ต่อ 1 carton เพื่อบรรเทาปัญหาและอุปสรรคในการจัดการของกลางยาสูบ (การทำลายให้สิ้นสภาพ) และเพื่อปรับปรุงคุณภาพของกระบวนการจัดการของกลางยาสูบให้มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดผ่านแนวคิด Zero Waste ในการนำทุกส่วนประกอบของยาสูบไปใช้ประโยชน์ดังนี้

1. ยาสูบ นำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตยากำจัดศัตรูพืช (ชีวภาพ)

2. ก้นกรอง สามารถใช้ทดแทนมะพร้าวสำหรับปลูกไม้ดอกไม้ประดับ สร้างพื้นที่สีเขียว

3. บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระดาษ นำเข้าสู่กระบวนการ Recycle

4. ซองและพลาสติก สู่กระบวนการคัดแยกขยะเพื่อนำไปกำจัดให้ถูกวิธีต่อไป

- มิติด้านสังคม การส่งมอบของกลางยาสูบให้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไล่ศัตรูพืช ส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัยแก่บุคลากรในโรงเรียนและประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากการเรียนรู้ และสามารถจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรในราคาถูกแก่ชุมชนอีกด้วย

- มิติด้านธรรมาภิบาล การบริหารจัดการสินค้ายาสูบของกลาง ซึ่งมีจำนวนมากให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทั้งยังเป็นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน รวมถึงยังเป็นการสร้างความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามหลักธรรมาภิบาล

อย่างไรก็ตาม การนำบุหรี่ของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้วมาแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ในการไล่ศัตรูพืชนี้ เป็นโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในการแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมทดแทนการใช้สารเคมี ถือเป็นการนำของเหลือใช้มาหมุนเวียนสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เกิดการพัฒนาภาคเกษตรสู่การเติบโตสีเขียว

ทั้งยังเป็นการลดต้นทุนในการทำเกษตรให้กับเกษตรกรเป็นการต่อยอดนวัตกรรมและองค์ความรู้การทำลายยาสูบของกลาง ให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของกรมฯ EASE Excise ที่กรมฯ มุ่งเน้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งเห็นเป็นรูปธรรมในการดำเนินการ ให้เป็นไปตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของกรมฯ ในการให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นทั้งภารกิจหลักของกรมฯ และยังเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน

โดยทางสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว มีการสาธิตนวัตกรรมเครื่องตัดทำลายของกลางยาสูบ และมอบองค์ความรู้แลกเปลี่ยนสูตรการทำน้ำหมักเพื่อใช้ในการไล่ศัตรูพืช กับทางโรงเรียนทหารการสัตว์ เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนทั้งในด้านองค์ความรู้ในภาคการเกษตร การนำมาแปรรูปเพื่อเป็นยาไล่แมลงศัตรูพืช เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เชื่อมโยงสู่เศรษฐกิจพอเพียง และสร้างประโยชน์ให้ต่อชุมชนและพี่น้องประชาชนต่อไป


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ