กกต.จี้ ครม.ลืมประทับตรายาง กระทรวงพลังงานชงลดค่าไฟซ้ำอีกครั้ง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

กกต.จี้ ครม.ลืมประทับตรายาง กระทรวงพลังงานชงลดค่าไฟซ้ำอีกครั้ง

Date Time: 3 พ.ค. 2566 07:43 น.

Summary

  • อ้าวเฮ้ย! กระทรวงพลังงานเสนอ ครม.ลดค่าไฟฟ้าซ้ำอีกครั้ง หลังสัปดาห์ที่แล้วพลาดบรรจุเป็นวาระเพื่อทราบ ทำให้ กกต.ตีเรื่องกลับ ล่าสุดเสนอใหม่เป็นวาระเพื่อพิจารณาจร อนุมัติงบกลางฯ 10,464 ล้านบาท

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

อ้าวเฮ้ย! กระทรวงพลังงานเสนอ ครม.ลดค่าไฟฟ้าซ้ำอีกครั้ง หลังสัปดาห์ที่แล้วพลาดบรรจุเป็นวาระเพื่อทราบ ทำให้ กกต.ตีเรื่องกลับ ล่าสุดเสนอใหม่เป็นวาระเพื่อพิจารณาจร อนุมัติงบกลางฯ 10,464 ล้านบาท เพื่อชง กกต.ใหม่อีกรอบ ด้านกรมการค้าภายในไล่บี้โรงพยาบาลเอกชน อย่าขึ้นราคา

นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2566 เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 งบกลางวงเงิน 10,464 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน โดยหลังจากนี้จะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ความเห็นชอบอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 (3) ที่กำหนดไม่ให้กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่าย งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความ
เห็นชอบจาก กกต.ก่อน

ทั้งนี้ ส่วนลดไฟฟ้าจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนลดแบบขั้นบันได สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน สำหรับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งต้องใช้งบประมาณที่ใช้สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ 6,954 ล้านบาท หรือ 1,738.50 ล้านบาทต่อเดือน ครอบคลุม
ผู้ใช้ไฟฟ้า 18.32 ล้านราย เท่ากับ 78.42% ของบ้านอยู่อาศัยทั้งหมด โดยส่วนนี้ใช้วงเงินลดลงจากที่ ครม. หารือในสัปดาห์ก่อนที่ 7,602 ล้านบาท หรือลดลง 648 ล้านบาท เนื่องจากในงวดเดือนดังกล่าว ค่าไฟจะลดลงจาก 4.77 บาทต่อหน่วยเหลือ 4.70 บาทต่อหน่วย หรือลดลงหน่วยละ 7 สตางค์

ส่วนที่สองเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้า สำหรับงวดเดือน พ.ค.2566 จำนวน 150 บาทต่อราย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน โดยรัฐบาลตั้งใจให้เป็นการใช้ไฟฟ้าของเดือน เม.ย.ซึ่งมีอากาศร้อนและใช้ไฟสูงที่สุด โดยจะปรากฏในงวดบิลเดือน พ.ค.นี้ อย่างไร ก็ตาม ขึ้นอยู่กับความช้าหรือเร็วในการพิจารณาของ กกต.ด้วย ในส่วนนี้ใช้วงเงินงบประมาณไม่เกิน 3,510 ล้านบาท ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้า 23.40 ล้านราย

นายอนุชากล่าวว่า การลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนดังกล่าว รัฐบาลจะนำงบประมาณไปจัดสรรให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ 35.70 ล้านบาท, การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 10,428.30 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานต้องเสนอมาตรการลดค่าไฟฟ้าเข้า ครม.ซ้ำอีกครั้ง โดยครั้งนี้เสนอเป็นวาระเรื่องเพื่อพิจารณาจรและมีการอนุมัติ หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้าเสนอเป็นเรื่องเพื่อทราบ เพื่อรายงานสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าของประชาชนในช่วงฤดูร้อน 2566 พร้อมกับมาตรการช่วยเหลือ แต่เมื่อส่งเรื่องไปยัง กกต.ได้ถูกตีกลับมา โดย กกต.ให้ความเห็นว่า เรื่องที่เสนอมายังไม่ได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี

ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยกรณีที่มีข่าวว่าโรงพยาบาลเอกชนมีแผนขึ้นค่าบริการจากผลกระทบค่าไฟว่า กรมได้ประชุมร่วมกับ นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และผู้บริหารโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลยันฮี โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ โรงพยาบาลสินแพทย์ ได้รับการยืนยันว่า ยังไม่มีแผนปรับราคา เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชน โดยจะพยายามควบคุมต้นทุนและไม่ใช้วิธีการปรับขึ้นราคา เพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภคอีกทั้งปัจจุบันยังได้รับผลดีจากการที่รัฐบาลเปิดประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดภาระต้นทุนได้” นอกจากนี้ กรมยังได้เน้นย้ำให้โรงพยาบาลเอกชนแสดง QR Code ให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้สามารถตรวจสอบค่ายาและบริการต่างๆได้ หากพบว่าไม่เป็นไปตามที่แสดงใน QR Code สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายในโทร.1569.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ