“บอร์ดอีวี” ชูแพ็กเกจดึงผู้ผลิตเข้าไทย ใช้เงินอุดหนุนลดราคาให้คนซื้อ เตรียมเสนอ ครม.ก่อนยุบสภา

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“บอร์ดอีวี” ชูแพ็กเกจดึงผู้ผลิตเข้าไทย ใช้เงินอุดหนุนลดราคาให้คนซื้อ เตรียมเสนอ ครม.ก่อนยุบสภา

Date Time: 4 มี.ค. 2566 06:19 น.

Summary

  • ในวันที่ 14 มี.ค.นี้ จะนำมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เรื่องมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า รอบที่สอง

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 มี.ค.นี้ จะนำมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เรื่องมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า รอบที่สอง เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะเป็นการตัดสินใจเชิงนโยบายจึงต้องนำเสนอก่อนการยุบสภา เพราะรัฐบาลรักษาการไม่สามารถทำได้

สำหรับมาตรการที่นำเสนอเพื่อดึงบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่เข้ามาใช้ไทยเป็นฐานผลิต เพื่อไทยจะสามารถเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ภายหลังช่วง 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย แล้วจุดติดเร็วมาก ปัจจุบันมีวิ่งในท้องถนนแล้วกว่า 10,000 คัน และที่จองแล้วรอรับรถอีก 36,000-37,000 คัน

“มาตรการที่จะเสนอ ครม.คือจะให้มีการยกเว้น หรือลดอากรนำเข้า ลดอัตราภาษีสรรพสามิต หรือให้เงินอุดหนุน ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรายใหม่ที่เข้ามาจะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้นเป็นขายได้ 1 คัน ผลิตเพิ่ม 1.5 คัน ภายใน 3 ปี ซึ่งแตกต่างจากมาตรการรอบแรกที่ขายได้ 1 คัน ต้องผลิตในประเทศ 1 คัน ภายใน 2 ปี ซึ่งเป็นการยืดเวลาให้แต่ต้องผลิตเพิ่มขึ้น บนหลักการนี้ไม่ว่าบริษัทที่เข้ามารอบแรกหรือรอบสองจะไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ และอยู่บนหลักการที่แต่ละบริษัทมีความพร้อมไม่เหมือนกัน”

นอกจากนี้ จะขอให้ ครม.อนุมัติในหลักการที่รัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุนเงินสำหรับการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยขอเป็นหลักการเพื่อให้สามารถไปเจรจาต่อได้ โดยมั่นใจว่าไทยจะสามารถดึงผู้ผลิต รายใหญ่มาได้เพราะขณะนี้มีความต้องการใช้แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 300 กิโลวัตต์ สูงในระดับที่ทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลงได้ ขณะที่ อินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นประเทศคู่แข่งเพิ่งมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งในท้องถนนเพียง 600 คัน

“รัฐบาลนี้ได้ทำให้เห็นแล้วว่าตั้งใจทำงานจริงและออกมาเป็นรูปธรรมได้ วันนี้ทำแล้วทำอยู่และทำต่อ เมื่อรัฐบาลหมดวาระคนที่ตามมาก็ทำได้เลย เหมือนห่อของขวัญไว้ให้แล้ว จากที่ผ่านมามีแต่ไอเดีย”

สำหรับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับโลกเลือกใช้ไทยเป็นฐานผลิต รายใหม่ที่จะเข้ามาแน่ๆ คือ BMW เพิ่มเติมจากที่เข้ามาแล้วเช่น วอลล์ มอเตอร์ (GMW) เอสเอไอซี มอเตอร์ (MG) บีวายดี ออโต้ (BYD) รวมถึงฟ็อกซ์คอนน์ที่ร่วมมือกับ ปตท. เป็นต้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ