นางพเยาว์ อริกุล นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันไข่ไก่มีต้นทุนการผลิตสูงถึง 3.45-3.50 บาทต่อฟอง สูงกว่าช่วงปกติถึง 30% เกิดจากราคาธัญพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูงขึ้นอย่างมากและยืนแข็งในเกณฑ์สูงมาต่อเนื่องโดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของอาหารเลี้ยงไก่ไข่ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่แทบจะไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนสูงต่อไปได้อีก เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด จึงประกาศขยับราคาขายขึ้นเป็น 3.60 บาทต่อฟองเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และคาดว่าอาจต้องขยับอีกหากต้นทุนยังพุ่งไม่หยุด วอนภาครัฐเร่งแก้ปัญหาวัตถุดิบ และขอพี่น้องประชาชนโปรดเข้าใจสถานการณ์ เพราะไม่มีใครอยู่รอดได้หากต้องขายของในราคาขาดทุน
“ปัจจุบันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีราคาสูงถึง 13.40 บาท/กก. และกากถั่วเหลืองมีราคาถึง 23.70 บาท/กก. โดยมีการคาดการณ์กันว่าราคาวัตถุดิบในปี 2566 นี้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก 10% และรัฐปล่อยให้ราคาวัตถุดิบสูงอยู่เช่นนี้มานาน ควรเร่งหาทางแก้ไขและเปิดทางราคาขายผลผลิตให้สอดคล้องกับต้นทุน เพื่อให้เกษตรกรพอมีกำไรและทำธุรกิจฟาร์มต่อไปได้ อย่าลืมว่ายังมีต้นทุนอื่นๆอีกที่ล้วนขยับสูงขึ้นทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าพลังงาน น้ำมัน แก๊ส หรือแม้แต่ค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าแรงงานต่างๆภายในฟาร์ม ทำให้ส่วนต่างจากการขายไข่ทุกวันนี้แทบไม่พอจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารแล้ว” นางพเยาว์กล่าว.