นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (บอร์ด ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ธ.ก.ส.เร่งแก้ไขหนี้เสียที่มีแนวโน้มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 12.5% ในปัจจุบัน โดยให้ ธ.ก.ส.ลงไปดูในแต่ละพื้นที่ และติดตามสถานะของลูกค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงผ่อนปรนมาตรการต่างๆด้วย เช่น ยืดเวลาการชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ ที่มีสถานะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)
ทั้งนี้ บอร์ดให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ติดตามสถานการณ์หนี้เสียทุกเดือน และพบการดำเนินการมีความก้าวหน้าตามลำดับ แต่ยังต้องทำให้เข้มข้นมากขึ้น เพราะมีลูกหนี้ที่ไหลมาจากมาตรการพักชำระหนี้เดิม ซึ่งเมื่อหมดระยะเวลาโครงการ ทำให้ลูกหนี้มีสถานะเป็นเอ็นพีแอล เพราะเกษตรกรได้รับผลกระทบจากหลายสถานการณ์ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้นทุนการผลิต-ราคาอาหารแพงและสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้มีความยากลำบากในการชำระหนี้คืน ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้พยายามหาแนวทางช่วยเหลือแล้ว เช่น จัดงานมหกรรมแก้ไขหนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ โดยมุ่งแก้ไขเอ็นพีแอล ทั้งของลูกหนี้รายย่อย รายกลุ่ม และรายสถาบัน
“ธ.ก.ส.มีเป้าหมายว่า สิ้นปีบัญชี 65 (30 มี.ค.66) จะแก้ไขหนี้เสียให้ลดลงมาอยู่ที่ 8.99% ซึ่งจะพยายามแก้ไขให้ได้ตามเป้าหมาย โดยจะเข้าไปดูแลระดับพื้นที่ ตามนโยบายของคณะกรรมการธนาคาร ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้ขยายมาตรการพักชำระหนี้ออกไปแล้วถึงสิ้นปีบัญชี 65 เพื่อให้สามารถลดหนี้เอ็นพีแอลได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”.