นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากการเกิดอุทกภัยน้ำท่วมหลายจังหวัดของประเทศ ธนาคารได้มีมาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน โดยลูกหนี้สามารถพักชำระหนี้เงินต้น โดยเลือกชำระเฉพาะดอกเบี้ย 10%-100% และกรณีดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ลดการชำระเงินงวด 50% ขณะเดียวกัน ธนาคารยังให้ประชาชนที่ประสบภัยกู้เงินฉุกเฉิน สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ รายละไม่เกิน 50,000 บาท ไม่คิดดอกเบี้ยในปีแรก หลังจากนั้นคิด 0.85% ต่อเดือน ปลอดชำระเงินงวด 3 เดือนแรก รวมทั้งให้สินเชื่อเคหะแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เพิ่มเติมเพื่อซ่อมแซมต่อเติมที่อยู่อาศัยส่วนที่เสียหายได้ถึง 100% ของราคาประเมิน และสินเชื่อบุคคลแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ สูงสุดไม่เกินรายละ 500,000 บาท
ขณะที่นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.ได้ออก 7 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 1.ลดเงินงวด 50% จากเงินงวดปกติ และลดดอกเบี้ยเหลือ 3% ต่อปี 6 เดือน 2.ให้กู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี คงที่ 1 ปีแรก 3.ประนอมหนี้ไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน และดอกเบี้ย 0% ต่อปี 6 เดือน ไม่ต้องชำระเงินงวด 4.ประนอมหนี้ไม่เกิน 1 ปี คิดดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก ผ่อนเงินงวด 1,000 บาท 5.กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี 6.ที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังซ่อมแซมไม่ได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของอาคาร และ 7.พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) ลูกค้าที่ทำกรมธรรม์
ด้านนางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากผลกระทบทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ธนาคารพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเอสเอ็มอีผ่าน 5 มาตรการคือพักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 6 เดือน พักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไม่เกิน 3 เดือน ยกเว้นการเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระไม่เกิน 30 วัน เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราวสูงสุด 20% ของวงเงินเดิมไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้วงเงินปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินเสียหายสูงสุด 20% ของวงเงินเดิมสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท ผ่อนชำระ 7 ปี.