พาณิชย์เตือน ร้านธงฟ้า อย่าเล่นตุกติกกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ทั้งหักค่าหัวคิว ขึ้นราคาสินค้า แลกเงินสดกับลูกค้า ย้ำพบที่ไหนจะถอนสิทธิ์ ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทางกรมได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปว่ามีร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น หรือ ร้านธงฟ้า บางแห่งมีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค ดังนี้
1. คิดค่าบริการกับลูกค้า หรือที่เรียกว่าหักหัวคิวกับลูกค้าที่ชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน
2. มีพฤติกรรมรับแลกเงินสดจากผู้ถือบัตรคนจน
3. ขายสินค้าไม่ตรงกับราคาป้ายที่แสดง
4. ไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า
5. ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน จึงขอเตือนไปยังร้านธงฟ้า อย่าได้มีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะหากถูกร้องเรียน และตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และถูกเพิกถอนสิทธิ์การเป็นร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น รวมทั้งจะถูกตัดสิทธิ์การรับชำระเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากรมฯ ได้มีการดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการติดตามตรวจสอบร้านธงฟ้าที่ถูกร้องเรียน ผลการตรวจสอบพบการกระทำผิด
ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมรับแลกวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้ จำหน่ายสินค้าให้ผู้ใช้สิทธิ์คนละครึ่งในราคาสูงกว่าลูกค้าที่ชำระด้วยเงินสด และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า และได้ทำการเพิกถอนสิทธิ์ร้านธงฟ้าไปแล้วรวมทั้งสิ้น 121 ราย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเพิ่มวงเงินให้แก่ผู้ถือบัตรจำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน (ก.ย.-ต.ค. 65) จากเดิมเพิ่มเป็น 400 หรือ 500 บาทต่อคนต่อเดือน
รวมถึงเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50 หรือ 100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิ์ตั้งแต่ ต.ค. 2564-ก.ค. 2565 จะได้รับเงินเข้าบัตรในเดือน เม.ย.-ก.ย. 2565) รวมถึงโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ที่เริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-31 ต.ค. 2565
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นร้านค้ามีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค หรือทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะเข้าไปตรวจสอบในทันที และหากพบการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง