อาคมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มั่นใจ ปี 65 นี้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวกลับมาแน่นอน และการเก็บภาษีในปีนี้จะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายในงาน Thailand Focus 2022 : The New Hope ว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยค่อยๆ ปรับตัวและกำลังฟื้นตัวหลังจากวิกฤติโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก หลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด ในปีที่แล้ว โดยรัฐบาลได้เริ่มเปิดประเทศอีกครั้ง ผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และรัฐยังยกเลิกมาตรการจำกัดการท่องเที่ยวทั้งหมดเมื่อต้นเดือน ก.พ. 65 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของไทย ได้รับผลกระทบหนักมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา จากวิกฤติโรคโควิด และความไม่สงบทางด้านการเมือง ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจของไทยในภาพรวม รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น แต่นายอาคมมองว่า เศรษฐกิจของไทยจะฟื้นตัวได้ในปีนี้ โดยตั้งเป้าจีดีพีไว้ที่ 3.5%
จากมาตรการของรัฐบาลที่ช่วยเหลือทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการออก พ.ร.บ.กู้เงินฉุกเฉิน ที่นำเงินมาช่วยทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ รวมถึงการจัดหาวัคซีนโรคโควิดให้ประชาชน
ทั้งนี้ กลุ่มคนรายได้น้อย คือ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมากที่สุด ดังนั้น รัฐจึงออกมาตรการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือด้านราคาแก๊สหุงต้ม ก๊าซเอ็นจีวี และน้ำมันดีเซล รวมถึงการลดราคาค่าไฟฟ้า ในส่วนของภาคธุรกิจ ก็มีมาตรการช่วยในการจัดโครงสร้างหนี้ ประนอมหนี้ การออกเงินกู้พิเศษเป็นต้น
นายอาคม กล่าวอีกว่า ในปี 65 นี้ เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวกลับมาอย่างแน่นอน และการเก็บภาษีในปีนี้จะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ในอนาคตหลังจากวิกฤติโควิดไทยจะพุ่งเป้าไปที่การปรับเปลี่ยนทางเศรษฐกิจไปสู่ความยั่งยืนมากขึ้น เน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยตั้งเป้าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2065 เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต รัฐบาลได้เน้นไปยังการสนับสนุนการลงทุนในการก่อสร้างขนาดใหญ่ ภาคแรงงาน และนวัตกรรมใหม่ๆ ส่งเสริมภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวมถึงช่วยเหลือ SME กลุ่ม start up และรากหญ้า
"ถึงแม้ประเทศไทยจะประสบกับปัญหาจากโควิดมาเป็นเวลาสองปี แต่เศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มในทางที่ดียิ่งขึ้น"