นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) Re-Open ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง วงเงินโครงการ 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ธุรกิจโรงแรมและสาขาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ให้มีสภาพคล่องนำมาปรับปรุง ซ่อมแซมสถานประกอบกิจการ หรือลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องอบผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม เป็นต้น คาดว่าจะช่วยเหลือผู้ประกอบการ 1,000 ราย
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจกู้เงินเพื่อกลับมาเปิดกิจการโรงแรมยื่นกู้ได้ที่ธนาคารออมสินรายละ 5 ล้านบาท ระยะเวลากู้ไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระเงินต้น 2 ปี ในกรณีที่มีระยะเวลาการกู้ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ส่วนปีที่ 3-7 ดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงิน หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเต็มวงเงิน ระยะเวลายื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย.65 และรัฐบาลจะชดเชยต้นทุนเงินให้กับออมสิน 2% ต่อปีเป็นระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 200 ล้านบาท
นายอาคมยังกล่าวถึงทิศทางดอกเบี้ยหากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับดอกเบี้ยนโยบายด้วยว่า แม้สถาบันการเงินก็ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม แต่จะใช้เวลาในการปรับขึ้นราว 3-6 เดือน และเมื่อถึงเวลานั้นก็จะกระทบต่อต้นทุนของผู้ที่กู้เงินแน่นอน และส่งผลต่อระดับราคาสินค้าให้เพิ่มขึ้นด้วยส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อประเทศ จึงขอความร่วมมือสถาบันการเงินปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้แบบกระทบต่อลูกค้าน้อยที่สุด ขณะเดียวกัน การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะมีส่วนที่กระทบต่อหนี้ของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของต้นทุนการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้ปรับเพิ่มขึ้นตาม แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่หนี้รัฐบาลจะเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ แต่การระดมทุนของรัฐบาลในระยะต่อไปก็อาจกระทบจากอัตราดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนสูงขึ้นได้.