นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคนิยมบริโภคอาหารหรือขนม ที่มีส่วนประกอบของแมลงกันมากขึ้น เพราะเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ที่ให้โปรตีนสูงไม่แพ้โปรตีนจากเนื้อสัตว์อื่น โดยมีคุณค่าทางสารอาหารจำนวนมาก รวมทั้งมีแร่ธาตุแคลเซียม ไฟเบอร์ วิตามินสูง และไขมันต่ำ อีกทั้งตลาดแมลงทั่วโลกมีมูลค่ามากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าในปี 70 มูลค่าการตลาดของ อาหารโปรตีนจากแมลงจะสูงถึง 2,067.9 ล้านเหรียญฯ
“นับเป็นโอกาสของเกษตรกรรายย่อยของไทยที่จะเพาะเลี้ยง และพัฒนาการเลี้ยงแมลงให้มีมาตรฐานสากล เป็นโอกาสของอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มจากการผลิตอาหารโปรตีนทางเลือกจากแมลง รวมทั้งพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีแปรรูปอาหารซุปเปอร์ฟู้ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะสร้าง มูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรและสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยผลิตแมลงเศรษฐกิจได้เกือบ 200 ชนิด มากกว่า 7,000 ตันต่อปี แต่ที่นิยม มากที่สุดคือ จิ้งหรีด มีฟาร์มเพาะเลี้ยงมากกว่า 23,000 ฟาร์ม โดยในปี 64 ไทยส่งออกแมลงและ อาหารแปรรูปที่ทำจากแมลง 575 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.5 ล้านเหรียญฯ ขยายตัวสูงถึง 96.27% ตลาด ส่งออก 5 อันดับแรกคือ กัมพูชา 47.80% ของการส่งออกไปโลก, สหรัฐฯ 26.07%, ญี่ปุ่น 12.28%, เมียนมา 4.69% และฮ่องกง 6.51% นอกจากนี้ สหภาพยุโรปได้อนุมัติแมลงเศรษฐกิจชนิดอื่น เช่น หนอนนกและตั๊กแตนให้เป็นอาหารสำหรับการบริโภคได้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ผู้เลี้ยงของไทยสามารถเพาะขยายพันธุ์เพื่อการส่งออก และเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เช่น อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว อาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารเสริมโปรตีน รวมทั้งการผลิตอาหารสัตว์ด้วย.