เตือนภัย “คริปโตเคอร์เรนซี” เข้าสู่ตลาดหมี

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เตือนภัย “คริปโตเคอร์เรนซี” เข้าสู่ตลาดหมี

Date Time: 17 พ.ค. 2565 05:51 น.

Summary

  • ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ขณะนี้เข้าสู่ช่วงตลาดหมี (ภาวะตลาดซบเซาในภาวะขาลง) อย่างแท้จริง ซึ่งส่งสัญญาณมาตั้งแต่ต้นปี โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ราคาบิทคอยน์ตกลงไปต่ำกว่า 1 ล้านบาท

Latest

เจ้าหนี้การบินไทยขอเลื่อนโหวตแผนฟื้นฟู

นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang ผู้นำธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชน เปิดเผยว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ขณะนี้เข้าสู่ช่วงตลาดหมี (ภาวะตลาดซบเซาในภาวะขาลง) อย่างแท้จริง ซึ่งส่งสัญญาณมาตั้งแต่ต้นปี โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ราคาบิทคอยน์ตกลงไปต่ำกว่า 1 ล้านบาท เกิดจากแรงกดดันตลาดแพนิก ทั้งจากวิกฤติของเหรียญ Stablecoin UST และหุ้น LUNA ที่เป็นผู้ออกเหรียญ UST ที่ส่งผลให้เหรียญในกลุ่ม DeFi และ Stablecoin รวมทั้งเหรียญอื่นๆ ก็ถูกเทขายออกมา สิ่งที่กดดันมากขึ้น คือการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่คงต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างจริงจังมากขึ้น เพราะตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI ที่ใช้คำนวณอัตราเงินเฟ้อ) เร่งตัวขึ้น 8.3% ในเดือน เม.ย. มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.1% และใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ปัจจัยจาก FED กับการต่อสู้กับวิกฤติเงินเฟ้อ ยังคงอยู่ไปอีก 3-4 เดือนจากนี้ ย่อมกดดันให้คริปโตฯ สามารถลงไปทดสอบระดับล่างได้อีก

“มองว่าทางเทคนิค Bitcoin และเหรียญ Altcoin อื่นๆยังอยู่ในช่วงขาลง และคงไม่จบใน 1 ถึง 2 สัปดาห์นี้ อาจยืดยาวไป 1 ถึง 2 เดือน ราคาของบิทคอยน์อาจเคลื่อนไหวไปมา ในช่วงกว้าง ระหว่าง $32,000 ถึง $25,000 ต่อ 1 บิทคอยน์ อยู่หลายสัปดาห์จากนี้ ขอเตือนนักเทรดว่าอย่าใช้อารมณ์ในการเทรด ต้องมีสติ และบริหารการเงินให้ดี”

นายสรัล ศิริพันโนน ซีอีโอ Satang Corporation กล่าวว่า การมองหาว่าเหรียญหรือสินทรัพย์ใดเป็น safe-haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัย อาจยากสักหน่อย เพราะเมื่อ FED ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกำจัดเงินเฟ้อ ย่อมทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น คริปโตฯ อยู่ในภาวะกดดันคือไม่ขึ้นหรืออาจลงมาอีกใน 4-5 เดือนนี้ และเมื่อสินทรัพย์แทบทุกชนิดถูกเทขาย เงินก็จะไหลกลับมาที่เงิน US Dollar อีก เพราะ USD แข็งค่าขึ้น แสดงว่าไม่มีทรัพย์สินอื่นน่าสนใจลงทุน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ