แก๊สหุงต้มขึ้นราคาวันแรก ค้าภายในจับตา ย้ำไม่มีผลให้ราคาอาหารขึ้น

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

แก๊สหุงต้มขึ้นราคาวันแรก ค้าภายในจับตา ย้ำไม่มีผลให้ราคาอาหารขึ้น

Date Time: 2 เม.ย. 2565 07:16 น.

Summary

  • เริ่มแล้ววันแรกแก๊สขึ้นราคากิโลกรัมละ 1 บาท ต่อเนื่อง 3 เดือน 3 บาท ขยับจาก 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม พรวดมา 333 บาท และมาจบที่ถังละ 363 บาท

Latest

“พิชัย” เปิดเวทีชวนนักลงทุนเข้าไทย

เริ่มแล้ววันแรกแก๊สขึ้นราคากิโลกรัมละ 1 บาท ต่อเนื่อง 3 เดือน 3 บาท ขยับจาก 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม พรวดมา 333 บาท และมาจบที่ถังละ 363 บาท แม่ค้ายันกัดฟันไม่ขึ้นราคาอาหาร แม้ต้นทุนพุ่งหมดแล้ว ทั้งน้ำตาล ซีอิ๊ว ไข่ ถุง ด้านกรมการค้าภายในย้ำก๊าซหุงต้มขึ้นราคาโลละ 1 บาท ไม่มีผลทำให้ราคาอาหารต้องขยับ พบผู้ค้าฉวยโอกาส เล่นงานตามกฎหมาย และสัปดาห์หน้าเตรียมเรียกผู้ผลิตซอสปรุงรส ผงซักฟอกมาหารือ กำชับให้ตรึงราคา!!

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า วันที่ 1 เม.ย.65 เป็นวันแรกที่กระทรวงพลังงานปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) โดยปรับขึ้นตลอด 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.65) รวม 3 บาทต่อ กก. ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มขยับจาก 318 บาทต่อถัง 15 กก. เป็น 333 บาทต่อถัง 15 กก.ในเดือน เม.ย. ปรับราคาครั้งที่ 2 เดือน พ.ค. ราคาอยู่ที่ 348 บาทต่อถัง 15 กก. และปรับครั้งที่ 3 เดือน มิ.ย. ราคาอยู่ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กก. ทั้งนี้ การปรับขึ้นดังกล่าวเป็นการปรับตามขั้นบันได เนื่องจากราคาต้นทุนแท้จริงปรับขึ้นสูงกว่า 450 บาทต่อถัง 15 กก.แล้ว โดยรัฐบาลได้นำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปดูแลส่วนต่าง จนทำให้สถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด วันที่ 27 มี.ค. บัญชีแอลพีจีติดลบแล้ว 29,368 ล้านบาท บัญชีน้ำมันติดลบ 8,224 ล้านบาท ส่งผลให้ฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบแล้ว 37,592 ล้านบาท

ส่วนผู้มีรายได้น้อย กระทรวงพลังงานได้ช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มวงเงินช่วยเหลือในบัตรอีก 55 บาทต่อ 3 เดือน เป็น 100 บาทต่อ 3 เดือน จาก 45 บาทต่อ 3 เดือน โดยช่วยเหลือ 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.65) ใช้งบกลางประมาณ 200 ล้านบาท ขณะที่ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐราว 5,500 คน บมจ.ปตท.ได้ช่วยเหลือมอบส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย. 65) วงเงินช่วยเหลือ 1.65 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามร้านค้าก๊าซหุงต้มแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น ระบุว่า ยังตอบไม่ได้ว่า ยอดขายจะลดลงหรือไม่ เนื่องจากยังเป็นวันแรก ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาร้านค้า ร้านอาหาร บ้านเรือนบางส่วน เมื่อก๊าซฯใกล้หมดถังได้รีบเปลี่ยนถังใหม่ เพื่อได้ราคาเดิมก่อนประกาศปรับขึ้นราคาวันที่ 1 เม.ย.แล้ว ขณะที่มาตรการให้ส่วนลดค่าก๊าซฯผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และหาบเร่แผงลอย ที่ลดราคาก๊าซฯ 100 บาท ส่วนใหญ่ร้านค้าก๊าซฯไม่ค่อยเข้าโครงการสวัสดิการของรัฐ เนื่องจากมีความยุ่งยากในการใช้จ่าย รวมถึงลูกค้าต้องเดินทางมาชำระเงินหน้าร้าน เสียค่าเดินทางและต้องจ่ายค่าขนส่งก๊าซฯเอง ถือว่าไม่คุ้ม น.ส.กนกพร อินทรการุณเวช เจ้าของร้านอาหารย่านตลิ่งชัน กล่าวว่า ร้านอาหารตนยังไม่ขึ้นราคา จากผลกระทบราคาก๊าซฯครั้งนี้ เนื่องจากตอนราคาหมูสูงขึ้น ได้ปรับราคาไปแล้ว 5 บาท ครั้งนี้จึงไม่อยากเพิ่มภาระให้ผู้บริโภค แม้จะได้รับผลกระทบไม่เพียงแค่หมูขึ้นราคาเท่านั้น ตอนนี้ทั้งน้ำตาล ซีอิ๊ว ไข่ น้ำปลา ถุง ครีมเทียมต่างๆ นมข้นหวาน ที่ใช้ชงเครื่องดื่มก็ได้ปรับขึ้นราคาหมดแล้ว ยืนยันว่าจะพยายามช่วยผู้บริโภค จนกว่าจะไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มได้

ขณะที่ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ครั้งนี้ว่า มีผลต่อต้นทุนในการประกอบอาหารเพียงเล็กน้อย เนื่องจากก๊าซหุงต้ม 1 ถัง ใช้ทำอาหารได้ 200-300 จาน ดังนั้น การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม จึงไม่ควรเป็นเหตุผลให้ร้านอาหารปรับขึ้นราคา โดยกรมจะติดตามสถานการณ์ราคาอาหารอย่างใกล้ชิด เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด “ราคาก๊าซหุงต้มที่เพิ่มขึ้น ไม่มีผลทำให้ราคาอาหารต้องปรับขึ้น หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม แจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยกรณีค้ากำไรเกินควร กักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท”

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าสินค้าอุปโภคบริโภคบางชนิด เช่น ซอสปรุงรส และผงซักฟอก (ผลิตภัณฑ์ซักล้าง) ปรับขึ้นราคาขายนั้น กรมได้ติดตามสถานการณ์ราคาและต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภคมาตลอด โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ 18 หมวด เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารสด (ไข่ไก่ เนื้อสัตว์), อาหารกระป๋อง, ข้าวสารถุง, ซอสปรุงรส, น้ำมันพืช, นมและผลิตภัณฑ์จากนม, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ผลิตภัณฑ์ซักล้าง, ปุ๋ย, ยาฆ่าแมลง, เหล็ก, ปูนซีเมนต์, ยาเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์และบริการผ่านห้างค้าปลีก-ส่ง ขณะนี้ยังไม่ได้อนุญาตให้ปรับขึ้นราคา แต่สัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ผลิตสินค้ากลุ่มซอสปรุงรส และผงซักฟอกมาหารือ เพื่อกำชับเรื่องราคา และจะประชุมร่วมกับห้างค้าส่งค้าปลีก เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาและให้เตรียมสต๊อกสินค้าให้เพียงพอต่อการจำหน่ายในช่วงสงกรานต์ด้วย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ