หนุน ศอ.บต. สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หนุน ศอ.บต. สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล

Date Time: 19 มี.ค. 2565 13:56 น.

Video

แก้เกมหุ้นไทยตกต่ำ ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดแผนฟื้นความเชื่อมั่น | Money Issue

Summary

  • "รักษ์พงษ์" หนุน ศอ.บต. สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล หวังมุ่งเพิ่มรายได้ให้ทั่วถึงประชาชน 3.5 ล้านคน

"รักษ์พงษ์" หนุน ศอ.บต. สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล หวังมุ่งเพิ่มรายได้ให้ทั่วถึงประชาชน 3.5 ล้านคน

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุน การพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ณ ห้องประชุมคิงส์ตัน ชั้น 5 โรงแรมคริสตัลหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อนำสินทรัพย์พร้อมใช้งานที่มีอยู่ในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งสามารถสร้างเศรษฐกิจได้มูลค่าเกือบ 400,000 ล้านบาทต่อปีในอดีต มาทำให้เกิดประโยชน์และมูลค่าสูงสุด

ทั้งนี้ เนื่องจากวิกฤติโรคระบาด ทำให้ปริมาณเงินที่เคยเข้ามาจากต่างชาติลดลงจากระบบเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนเกิดวิกฤติหนี้เพิ่มสูงอย่างมากในระบบเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้เกิดการฝืดเคืองของเงินในระบบ เป็นสาเหตุของสภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้

ดังนั้น ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. และมูลนิธิรวมพัฒน์ จึงมีแนวคิดเชื่อมโยงเศรษฐกิจชายแดนใต้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนและสร้างสภาพคล่องให้เกิดการหมุนเวียนแลกเปลี่ยนในระบบด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อรักษาและเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจที่มีอยู่เกือบ 400,000 ล้านบาท ให้เกิดการเพิ่มและกระจายรายได้ให้ทั่วถึงประชาชนในท้องถิ่นกว่า 3.5 ล้านคน

ทางด้าน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกส่วนราชการเร่งนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารราชการ เพื่อให้เกิดประโยชน์และความสุขต่อประชาชน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรมนุษย์และการบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ ศอ.บต. โดยตรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเชื่อมั่นว่าการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาปรับใช้ในวันนี้ จะเป็นการวางรากฐานการทำงานสำคัญของทุกภาคส่วน 

ขณะที่ นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ประธานมูลนิธิรวมพัฒน์ และ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจพร้อมทั้งสินทรัพย์พร้อมใช้งาน หรืออาจเรียกว่าเป็น Utility พร้อมใช้ ที่มีมูลค่ามากกว่า 400,000 ล้านบาท อีกทั้งยังประกอบไปด้วยประชาชนซึ่งนับเป็นสมาชิกในระบบ เป็นทั้งผู้ใช้และผู้ผลิตในตัวเองอยู่แล้วกว่า 3.5 ล้านคน

แต่ที่ผ่านมา ต้องพึ่งพาการพัฒนาเศรษฐกิจจากภายนอก ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนภายในขาดความเข้มแข็ง วันนี้อยากให้ทั้งหมดกว่า 3.5 ล้านคน ลุกขึ้นมาจับกลุ่มเชื่อมโยงกันโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นเครื่องมือสร้างเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Utility Token พร้อมใช้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นจากภายในชาวจังหวัดชายแดนใต้ด้วยกันเอง ตนพร้อมร่วมกับ ศอ.บต. เพื่อสนับสนุนดำเนินการศึกษาเพื่อสร้าง Tokenomic ที่มีประสิทธิภาพอย่างเหมาะสม และถูกต้องตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้องของประเทศต่อไป.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ