จับตา! ผู้ผลิตจ่อขึ้นราคาเร็วๆนี้ ทั้งปุ๋ยเคมี อาหารสัตว์ อาหารกระป๋อง วัสดุก่อสร้าง หลังพาณิชย์ยอมรับต้นทุนพุ่งจากผลกระทบรัสเซีย–ยูเครน แต่ยันพิจารณาให้เป็นรายๆ สอดคล้องกับต้นทุน และห้ามค้ากำไรเกินควร วอนประชาชนเข้าใจต้นทุนขึ้นเพราะสงคราม แต่หลายสินค้าราคาทรงตัว และลดลง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าในประเทศว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในรายงานสถานการณ์ราคาสินค้ามาให้ทราบทุกวัน โดยเฉพาะสินค้าที่สำคัญต่อการอุปโภคบริโภค 18 หมวด ซึ่งส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดราคาทรงตัว โดยเฉพาะหมวดอาหารสด ทั้งหมูเนื้อแดง ไก่ ขณะที่บางรายการราคาลดลง เช่น ไข่ไก่ แต่ยอมรับว่าบางรายการขอปรับขึ้นราคาแล้ว เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม 1 ราย แต่ยังไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นราคา รวมถึงอาหารกระป๋องที่ขณะนี้ต้นทุนกระป๋องสูงขึ้น เพราะราคาเหล็กในตลาดโลกสูงขึ้น 40-45% จากผลของสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพราะทั้ง 2 ประเทศเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก
สำหรับอาหารสัตว์ต้นทุนสูงขึ้นจริง ทั้งจากข้าวสาลี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพราะแหล่งผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ของโลกคือ ยูเครนเกิดสงคราม ส่งผลต่อปริมาณในตลาดโลก และผลักดันให้ราคาสูงขึ้น ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องเป็นหลักในการแก้ปัญหา แต่ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ หารือกับปลัดกระทรวงเกษตรฯ หาทางออกร่วมกันแล้ว เช่น หาทางลดต้นทุนการผลิต ลดผลกระทบกลุ่มผู้ใช้ เช่น ผู้เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม วันที่ 15 มี.ค.นี้ ปลัดทั้ง 2 กระทรวงจะหารือร่วมกัน โดยจะต้องดูข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ลึกถึงต้นทุนและมาตรการต่างๆที่ควรนำมาใช้ให้ต้นทุนการผลิตของปศุสัตว์ลดลงได้ รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลทุกฝ่าย ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค คิดว่าในภาวะนี้ทุกฝ่ายเริ่มเข้าใจและเห็นภาพว่า เป็นภาวะสงคราม แม้จะไม่เกิดบ้านเรา แต่มีผลกระทบทั่วโลก เห็นทันตาว่ากระทบอะไรบ้าง แต่รัฐบาลจะดูแลในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย
ส่วนกรณีที่ผู้ผลิตสินค้าหลายรายการ ทั้งปุ๋ยเคมี อาหารสัตว์ อาหารกระป๋อง และวัสดุก่อสร้างจะขอปรับขึ้นราคาขาย เพราะต้นทุนวัตถุดิบขึ้นราคาจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครนนั้น กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาอย่างเป็นธรรม เพื่อให้เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้บริโภคอยู่ร่วมกันได้ แต่จะพิจารณาเป็นรายๆ ไม่ใช่ให้ขึ้นได้ทั้งหมด เพราะแต่ละรายได้รับผลกระทบต่างกัน รวมถึงได้เตรียมมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนไว้แล้ว ที่ผ่านมามีโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชนออกมาแล้วถึง 16 ลอต
“การจะให้ขึ้นราคาหรือไม่ ต้องดูที่ข้อเท็จจริง มีเอกสารหลักฐานยืนยันชัดเจน ไม่ใช่ใช้ความรู้สึก และถ้าพบว่าผู้ผลิตรายใดแจ้งข้อมูลเท็จจะมีความผิดแน่นอน กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาเป็นหมวดสินค้าและเป็นรายๆไป ราคาสินค้าจะมีทั้งทรงตัว ปรับขึ้น และลดลง ไม่ได้มีขึ้นอย่างเดียวแน่นอน”
ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า วันที่ 15 มี.ค.นี้จะหารือกับกระทรวงเกษตรฯ พิจารณาข้อเท็จจริงของสถานการณ์ ปุ๋ยเคมี และอาหารสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากรัสเซีย-ยูเครน เพื่อหาทางแก้ปัญหาและลดผลกระทบให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่อยากให้ประชาชนเข้าใจด้วยว่าหากต้นทุนผลิตสูงขึ้น ผู้ประกอบการก็จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขาย ไม่มีใครอยากขึ้นราคาในภาวะที่กำลังซื้อยังน้อยอยู่ เพราะการขึ้นราคา อาจทำให้ขายสินค้าได้น้อยลง อีกทั้งประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น ถ้ารายใดขึ้นราคา ก็สามารถซื้อจากรายอื่นได้
“ในภาวะสงคราม ซึ่งเป็นสถานการณ์พิเศษ ทั่วโลกกระทบหมด อยากให้ประชาชนเข้าใจด้วย ถ้าจะมีสินค้าขึ้นราคา ก็เพราะได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นมากจริงๆ ถ้าไม่ให้ขึ้นราคา เขาก็อาจไม่ผลิต เพราะขายได้ไม่คุ้มทุน ซึ่งจะเกิดภาวะขาดแคลนได้ กระทรวงพาณิชย์ต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค และการให้ขึ้นราคาจะต้องสอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง ไม่ให้ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควรแน่นอน”.