คนรักหมูกรอบเริ่มยิ้มออก "ราคาหมู" หลังตรุษจีนเริ่มถูกลง พบราคาหน้าฟาร์มเริ่มต่ำกว่า 100 บาท สะท้อนต้นทุนแท้จริง ส่วนคาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือน ก.พ. ราคาข้าวเปลือกทยอยปรับขึ้น หลังอินเดียมีปัญหาขาดแคลนรถไฟบรรทุกสินค้า
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ได้คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือน ก.พ. 65 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคา 7,957 - 8,209 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.45% - 3.64% เนื่องจากอินเดียผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกประสบปัญหาขาดแคลนรถไฟบรรทุกสินค้า ทำให้ไม่สามารถส่งออกข้าวตามคำสั่งซื้อได้ทั้งหมด ประเทศคู่ค้าบางรายจึงเปลี่ยนมาซื้อข้าวจากไทยทดแทน
ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ราคา 11,229 - 11,371 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 3.00% - 4.30% และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวราคา 8,922 - 9,391 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.69% - 5.99% เนื่องจากภาครัฐดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 เพื่อชะลอการขายข้าวที่ออกสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับเงินบาทยังคงอ่อนค่า จึงทำให้ประเทศคู่ค้ามีความสนใจสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น
น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคา 19.12 - 19.98 เซนต์ต่อปอนด์ (13.92 - 14.54 บาทต่อกก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.16% - 5.71% เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อราคาเอทานอล และอาจจูงใจให้โรงงานน้ำตาลในบราซิลนำอ้อยไปผลิตเอทานอลมากกว่าน้ำตาลทราย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยกดดันราคาน้ำตาลจากปริมาณผลผลิตอ้อยที่เพิ่มขึ้นทั้งจากอินเดียและไทย
มันสำปะหลัง ราคา 2.27 - 2.34 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.44% - 3.54% เนื่องจากความต้องการใช้มันสำปะหลังของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สุกร ราคา 99.51 - 101.44 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.57% - 2.52% เนื่องจากปริมาณผลผลิตเนื้อสุกรยังคงอยู่ในระดับต่ำจากปัญหาการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF ประกอบกับรัฐบาลควบคุมการนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาด ASF อย่างไรก็ตาม ภาครัฐได้ออกคำสั่งห้ามกักตุนหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาเนื้อสุกรจะถูกดำเนินคดีขั้นสูงสุด
กุ้งขาวแวนนาไม ราคา 178.78 - 185.12 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.44% - 4.01% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในแบบ Test & Go อีกครั้งภายในเดือน ก.พ. 65 จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ความต้องการบริโภคกุ้งเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตกุ้งลดลงจากปัญหาต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรลดปริมาณการเลี้ยงกุ้ง
โคเนื้อ ราคา 99.20 - 101.00 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.05% - 1.86% เนื่องจากปัญหาเนื้อสุกรราคาสูง และยังไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ราคาเนื้อประเภทอื่นที่เป็นสินค้าบริโภคทดแทนเนื้อสุกรมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อโคปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคา 8.72 - 8.77 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.11% - 0.68% เนื่องจากสัญญาราคาส่งมอบข้าวสาลีปรับลดลงจากการขายออกทำกำไร จึงคาดว่าผู้ประกอบการจะนำเข้าข้าวสาลีเพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ราคาสูง ส่งผลให้ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศลดลง
ปาล์มน้ำมัน ราคา 8.64 - 9.03 บาทต่อกก. ลดลงจากเดือนก่อน 13.50% - 17.27% เนื่องจากเดือน ก.พ. ผลผลิตปาล์มน้ำมันรอบใหม่เริ่มทยอยออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันปาล์มเพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ราคา 50.19 - 51.31 บาทต่อกก. ลดลงจากเดือนก่อน 1.83% - 3.98% เนื่องจากราคายางพาราล่วงหน้าตลาดโตเกียวมีแนวโน้มลดลง (ราคายางพาราล่วงหน้าตลาดโตเกียวส่วนหนึ่งถูกใช้เพื่อการเก็งกำไร) จากการที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ Fed อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 65
ทั้งนี้ เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมากกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ราคายางพารายังเคลื่อนไหวลดลงไม่มาก จากราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของโลกจะกลับมาสู่ระดับใกล้เคียงหรือมากกว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หมูราคาถูกลงสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการติดตามและได้รับรายงานเจ้าหน้าที่สายตรวจของกรมการค้าภายในที่ออกสำรวจราคาสินค้าใน กทม. และต่างจังหวัดทั่วประเทศช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน พบว่า ราคาเนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ มีแนวโน้มราคาลดลงเป็นส่วนใหญ่ โดยราคาเนื้อหมูเริ่มลดลงมาอยู่ที่ 200 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาเนื้อหมูมีราคาสูงถึง 250-300 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ ราคาเนื้อหมูเริ่มปรับลดลงเป็นจากความร่วมมือทุกฝ่าย มีการตรวจสต๊อก และระบายออกสู่ตลาดขณะนี้ โดยราคาเนื้อหมูหน้าฟาร์มปรับลงเหลือต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม และคาดว่าราคาเนื้อหมูจะปรับลดลงตามต้นทุนที่แท้จริง
สอดคล้องกับ นางภูษณิศ ไชยมณี ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับดูแล และพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าราคาหมูในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในอำเภอเมืองเริ่มปรับลดลง หลังสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือประกาศปรับราคาหมูเป็นจากกิโลกรัมละ 106 บาท เหลือ 102-104 บาท ส่งผลต่อราคาหมูชำแหละที่ปรับลงไปด้วย
นอกจากนี้ ยังพบว่าหมูในห้องเย็นที่มีอยู่ประมาณ 3 แสนกิโลกรัม เริ่มทยอยออกมากขึ้นตามคำสั่งซื้อ และหมูเป็นที่เพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมการเลี้ยงของปศุสัตว์ ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาหมูปรับลดลง โดยปัจจัยทั้งหมดนี้คาดว่าในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ สถานการณ์ราคาหมูจะดีขึ้นมาก และใกล้เคียงกับช่วงเดือน ต.ค. - พ.ย. 64 ที่หมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 160-170 บาท.