นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ปัจจุบันการฟังเพลงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือสตรีมมิ่งไม่ว่าจะเป็นช่องทาง JOOX, Apple Music, Spotify หรือ Youtube ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือสตรีมมิ่งดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อความบันเทิงส่วนบุคคลเท่านั้น หากผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือห้างร้านทั่วไปที่ต้องการเปิดเพลง เพื่อสร้างความบันเทิง หรือดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าของสิทธิ์เสียก่อน
“ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผู้ประกอบการทั้งร้านอาหาร หรือร้านค้าทั่วไป รวมถึงโรงแรมที่มีความต้องการเปิดเพลง เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง และสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าจะต้องขออนุญาตจากเจ้าของสิทธิ์ในเพลงต่างๆเสียก่อนไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลงจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือออฟไลน์ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ และมีความผิดตามกฎหมาย”
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้จัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในผลงานเพลง เพื่อติดต่อขออนุญาตได้ที่เว็บไซต์กรม http://music.ipthailand.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรม โทร.1368
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมีองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในไทย 21 แห่ง โดยดำเนินการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์จากผู้ประกอบการที่นำผลงานเพลงอันมีลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่ ในสถานประกอบการ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สถานบันเทิงต่างๆ โดยมีอัตราการจัดเก็บที่แตกต่างกัน เช่น ตู้หยอดเหรียญ จัดเก็บ 250 บาท/เดือน ห้องคาราโอเกะวีไอพี 350 บาท/เดือน ร้านอาหารเล่นสด เก็บเป็นรายปี 2,500 บาท แต่ถ้าเป็นค่ายเพลงใหญ่ และมีเพลงเป็นที่นิยมมากจะจัดเก็บในราคาแพงขึ้น เช่น ตู้หยอดเหรียญ 750 บาท/เดือน ร้านคาราโอเกะ 2,000 บาท/เดือน สื่อออนไลน์ 20,000 บาท/เพลง/ปี สื่อทีวี 250,000/เพลง/ครั้ง เป็นต้น และหากผู้ประกอบการใช้งานเพลงเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ โดยไม่ขออนุญาตก่อนจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ลิขสิทธิ์ โดยกรณีทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณชนให้เช่า มีโทษปรับไม่เกิน 20,000-200,000 บาท กรณีกระทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000-800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.