ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) เฉพาะกิจ ซึ่งมีการสำรวจระหว่างวันที่ 1-25 ต.ค. 2564 กรณีผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทย โดยพบว่า ระดับการฟื้นตัวของธุรกิจในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ในภาพรวมเห็นสัญญาณดีขึ้นเล็กน้อยในภาคการผลิตและการค้าจากการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดได้ดีขึ้น และการทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มเม็ดเงินกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐฯ ช่วยให้ความเชื่อมั่นและการบริโภคปรับดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจในอนาคตภาคธุรกิจยังกังวลกำลังซื้อของประชาชนที่อ่อนแอ โดยระบุว่าจะยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุด ที่ทำให้ธุรกิจยังไม่กลับสู่ระดับช่วงก่อนโควิด โดยมีผู้ประกอบการแสดงความกังวลด้านกำลังซื้อเพิ่มขึ้นในเดือน ต.ค. โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มิใช่การผลิต สอดคล้องกับระดับการฟื้นตัวที่ต่ำกว่าภาคการผลิตอย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนหนึ่งมีผลมาจากภาคดังกล่าวยังต้องพึ่งพิงกำลังซื้อในประเทศเป็นหลัก ขณะที่ส่วนหนึ่งเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น คนจะซื้อสินค้าโดยรอโปรโมชันมากขึ้น ซึ่งสะท้อนกำลังซื้อที่เปราะบาง นอกจากนั้น กำลังซื้อที่ลดลงยังมาจากการท่องเที่ยวที่แม้เริ่มฟื้นตัวแต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติเช่นกัน
ทั้งนี้ นักลงทุนยังเป็นห่วงการระบาดระลอกใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการ ขณะที่รายได้ในภาคการเฉลี่ยของแรงงานในภาคการผลิตทรงตัว แต่ในภาคที่มิใช่การผลิตปรับลดลงบ้าง สอดคล้องกับสัดส่วนการใช้นโยบายด้านการจ้างงานที่ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งยังใช้นโยบายสลับกันมาทำงานและลดชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือน พ.ย.สถานการณ์จะดีขึ้น.