นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด ไตรมาส 3/64 ที่สำรวจผู้ประกอบการ 111 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 18 ก.ย.-8 ต.ค.64 ว่า ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในรอบ 2 ไตรมาส โดยดัชนีรวมอยู่ที่ 47.9 ดัชนีในปัจจุบันอยู่ที่ 47.1 และดัชนีในอนาคตอยู่ที่ 48.7 เพราะปลายไตรมาส 3 รัฐทยอยคลายล็อกมาตรการต่างๆ และผู้ประกอบการมองว่าธุรกิจค้าปลีกน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว “จากการที่รัฐบาลเติมเงินคนละครึ่งเฟส 3 ให้ประชาชนอีกคนละ 1,500 บาท รวมเป็น 3,000 บาท จะทำให้มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นอีก 45,000 ล้านบาท ส่วนเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ เดือนละไม่ต่ำกว่า 10,000-25,000 ล้านบาท จะทำให้จีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัวได้ 3-4% และทั้งปี 64 มีโอกาสเติบโตได้ 1-1.5%
ด้านนางสาวชลิดา จันทร์สิริพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการกลุ่มค้าปลีกและบริการ สภาหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้มีการคลายล็อกและอัดฉีดกำลังซื้อผ่านโครงการคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ เราเที่ยวด้วยกัน ทัวร์เที่ยวไทย ซึ่งเริ่มเข้ามาเป็นปัจจัยบวก แต่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นเท่าที่ควร “ภาคธุรกิจโมเดิร์นเทรดต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ โดยลดค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัคซีนและช่วยเหลือลูกจ้าง หรือการช่วยเหลือร้านค้าในศูนย์การค้า นอกจากนี้ ขอให้รัฐเร่งแก้ไขเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อซอฟต์โลน ซึ่งปัจจุบันมีวงเงินเหลือ 50,000 ล้านบาท แต่ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยยังไม่สามารถกู้เงินได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบต่างๆ”.