ศักดิ์สยาม เดินหน้าตั้งบริษัทลูกบริหารทรัพย์สินรถไฟไทย มั่นใจ สร้างรายได้กว่า 1.2 แสนล้านบาท ภายใน 10 ปี
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.64 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการจัดตั้ง บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า เร็วๆ นี้ จะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงหลักหรือธรรมนูญใหญ่ที่ใช้ในการดำเนินงานระหว่างกัน หรือที่เรียกว่า Master Agreement ระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กับ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด
โดยข้อตกลงดังกล่าวจะมีการระบุให้ เอสอาร์ที แอสเสท เป็นผู้ทำหน้าที่หลักในการบริหารทรัพย์สินของ รฟท. รวมถึงการให้สิทธิ์ในการบริหารอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดินของ รฟท.ทั้งหมด โดยการบริหารทรัพย์สินของ รฟท. ภายใต้ เอสอาร์ที แอสเสท นั้นจะมีการใช้วิธีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารใหม่ ทำให้บริษัทมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในยุคโลกาภิวัตน์
ดังนั้นบริษัทดังกล่าวจึงได้มีการดำเนินการเตรียมความพร้อมในด้านกระบวนการทางกฎหมาย โดยได้มีการขอยกเว้นพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนในด้านการบริหารจัดการและทางด้านธุรกิจ ได้มีการวางแผนในการกำหนดการมอบสิทธิ์ในการบริหารที่ดิน เพื่อให้ เอสอาร์ที แอสเสท รับมอบสิทธิ์การบริหารที่ดินของ รฟท.ได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ เอสอาร์ที แอสเสท ยังได้มีการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารโครงการใหญ่ๆ โดยมีดำเนินการในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่ได้ดำเนินการในรูปแบบการให้เช่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะมีการบริหารทรัพย์สินให้เกิดมูลค่า ซึ่งการบริหารสิทธิ์ในที่ดินต่างๆ คาดว่าจะถูกทำให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนได้ภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่และจากการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางการเงิน คาดว่า บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ โดยมีมูลค่าสูงถึง 125,175.44 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปี
นอกจากนี้ ผมยังได้สั่งการให้ รฟท.ไปพิจารณาพื้นที่แปลงใหญ่ที่มีศักยภาพของ รฟท. เช่น พื้นที่บริเวณถนนพระราม 9 จากแยกคลองตัน และถนนรัชดาภิเษก มาเพิ่มศักยภาพเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม ขณะเดียวกันในช่วงที่ยังไม่ได้ดำเนินการพื้นที่แปลงใหญ่ ให้ รฟท.เร่งนำพื้นที่แปลงขนาดกลางและขนาดเล็กมาเร่งพัฒนาให้เกิดรายได้ก่อน
ขณะเดียวกันยังให้ รฟท.ไปพิจารณาเปรียบเทียบ บริษัทลูก ของบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด กับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด เพิ่มเติม เพื่อสร้างความคล่องตัวและเสริมศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งนี้ ให้ความสำคัญกับหลักธรรมาภิบาล
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการบริหารสินทรัพย์ที่ดินที่มีแล้ว ให้ เอสอาร์ที แอสเสท ไปพิจารณาดำเนินการการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟ-รถไฟฟ้า หรือ TOD ด้วย โดยเฉพาะ สถานีธนบุรี ซึ่งสถานีดังกล่าวมีความสำคัญอยู่ติดกับโรงพยาบาลศิริราช มีระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อถึง 3 สาย สามารถใช้เป็นต้นแบบการพัฒนาแบบ TOD ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมได้ รวมถึงให้ เอสอาร์ที แอสเสท ไปพิจารณาความเหมาะสมของการพัฒนาพื้นที่แปลงศูนย์การแพทย์บริเวณสวนจตุจักรด้วย