เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณผงกหัว

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณผงกหัว

Date Time: 17 ก.ค. 2564 05:30 น.

Summary

  • รัฐบาลจะใช้ 3 แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย โดยแนวทางแรก คือ มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชนระยะสั้น ซึ่งรัฐได้ช่วยเหลือเยียวยาหลายมาตรการ

Latest

ที่ยืนของ “ธุรกิจไทย” แคบลงทุกที ไทยขาดดุล “จีน” สูงขึ้นเรื่อยๆ นำเข้าสินค้า ผ่าน Shopee - Lazada

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวสุนทรพจน์ในงาน THAILAND ECONOMIC MONITOR เส้นทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งจัดโดยธนาคารโลก ว่า รัฐบาลจะใช้ 3 แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย โดยแนวทางแรก คือ มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชนระยะสั้น ซึ่งรัฐได้ช่วยเหลือเยียวยาหลายมาตรการ

ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ก็ได้พักการชำระหนี้และดอกเบี้ย 2 เดือน แนวทางที่ 2 การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจรองรับการฟื้นตัวยั่งยืน โดยการสนับสนุนให้ใช้พลังงานสะอาด ลดการใช้ก๊าซคาร์บอน และ 3.การบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างรายได้ เพื่อให้มีรายได้ที่ยั่งยืน เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ จากการแพร่ระบาดโควิด มีผลกระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐใช้มาตรการต่างๆเข้าไปพยุงไม่ให้ตกต่ำมากไป ทั้งมาตรการการเงินและการคลัง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแนวทางที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก แนะนำ คือ ผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพื่อให้นโยบายการคลังได้เต็มที่ ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินไป 1 ล้านล้านบาท และปีนี้กู้เพิ่มอีก 500,000 ล้านบาท แม้จะมีประเด็นเรื่องหนี้สาธารณะ แต่ก็ต้องทำ เพราะเป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องทำ และขณะนี้รัฐเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 64 จากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าภาคผลิตยังอยู่ได้ ดังนั้นต้องป้องกันฐานการผลิตไม่ให้กระทบมาก นอกจากนี้ภาคเอกชนเริ่มลงทุนแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าสินค้าทุนของประเทศ

ขณะที่นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดรุนแรงขึ้น ดังนั้นมาตรการการคลังช่วงนี้จึงเน้นลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน คาดว่าครึ่งปีหลัง จะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจราว 200,000 ล้านบาท ทั้งนี้หากช่วงปลายปี เศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ กระทรวงการคลังจะกลับไปเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

“ขณะนี้ยังมีเม็ดเงินงบประมาณและเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทเหลืออยู่ ถึงแม้ใกล้จะหมดแล้วแต่มาตรการฟื้นฟูที่ใช้เม็ดเงินส่วนนี้จะดำเนินการไปถึงปลายปี และยังมีเงินกู้อีก 500,000 ล้านบาท แต่หากยังต้องการเงินกู้เพิ่มจริงๆ ก็ยังมีช่องว่างที่ทำได้ โดยขอขยายเพดานหนี้สาธารณะออกไป ส่วนในปีนี้แม้จะกู้เต็มพิกัดก็ยังเป็นไปตามกรอบวินัยทางการคลังที่ 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)”

“คลังอยู่ระหว่างปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ทั้งปรับโครงสร้างภาษี และเพิ่มศักยภาพในการจัดเก็บ เพื่อให้ภาครัฐมีรายได้พอ หลังจากการแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลาย เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และรองรับการคลังระยะยาว ที่รัฐมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น และรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ