คลังช่วย นายจ้าง-ลูกจ้าง หยุดนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพชั่วคราว

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

คลังช่วย นายจ้าง-ลูกจ้าง หยุดนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพชั่วคราว

Date Time: 14 ก.ค. 2564 10:55 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • กระทรวงการคลัง มีมาตรการขยายระยะเวลาช่วยเหลือนายจ้าง-ลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ให้หยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการชั่วคราว ได้ถึง ธ.ค. 2564

Latest


กระทรวงการคลัง มีมาตรการขยายระยะเวลาช่วยเหลือนายจ้าง-ลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ให้หยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการชั่วคราว ได้ถึง ธ.ค. 2564

วันที่ 14 ก.ค. 2564 น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีมาตรการขยายระยะเวลาการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากเดิมที่ผ่อนผันให้จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือน มิ.ย. 2564 ให้สามารถหยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กองทุนฯ) เป็นการชั่วคราวตั้งแต่งวดนำส่งเงินของเดือน ก.ค. 2564 จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือน ธ.ค. 2564

โดยนับอายุการเป็นสมาชิกกองทุนฯ ต่อเนื่อง และคงสมาชิกภาพไว้ภายใต้หลักการและแนวปฏิบัติเดิม ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างและนายจ้างที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยมุ่งหวังให้ลูกจ้างที่เป็นแรงงานในระบบยังคงสถานะการเป็นสมาชิกกองทุนฯ และสามารถออมผ่านกองทุนฯ หลังจากที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้คลี่คลาย เพื่อเป็นหลักประกันรายได้และนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง กำหนดประเภทธุรกิจ ระยะเวลา และเงื่อนไขให้ลูกจ้างหรือนายจ้างหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสม หรือเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในท้องที่ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจสาธารณภัย หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจฉบับที่ 3 พ.ศ.2564 ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์