“Good Factory Practice” 4 มาตรการเพื่อ...โรงงานปลอดภัย

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“Good Factory Practice” 4 มาตรการเพื่อ...โรงงานปลอดภัย

Date Time: 19 มิ.ย. 2564 05:01 น.

Summary

  • โลกในศตวรรษที่ 21 กำลังมุ่งสู่ความเป็น Smart มากขึ้น อย่างหนึ่ง คือ สมาร์ท แฟคตอรี่ (Smart Factory) หรือโรงงานอัจฉริยะ โดยเน้นระบบอัตโนมัติ (Automation) มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

Latest

พลิกฟ้าฝ่าวิกฤติ สรุปแผน “การบินไทย” ยุคใหม่ จาก รัฐวิสาหกิจ สู่ บริษัทเอกชนเต็มตัว กลับมาเทรดปี68

โลกในศตวรรษที่ 21 กำลังมุ่งสู่ความเป็น Smart มากขึ้น อย่างหนึ่ง คือ สมาร์ท แฟคตอรี่ (Smart Factory) หรือโรงงานอัจฉริยะ โดยเน้นระบบอัตโนมัติ (Automation) มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาประมวลผลการทำงานร่วมกับเครื่องจักร ที่เมื่อเกิดความผิดพลาดก็สามารถตรวจสอบจากชุดข้อมูลเหล่านี้ได้ ถือเป็นการยกระดับทางเทคโนโลยี

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก่อนจะไปถึงความเป็น Smart Factory สิ่งสำคัญที่สุด คือ “ความปลอดภัย” ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการในการควบคุมที่เป็นระบบ โดยเฉพาะในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เราจะเห็นว่า ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยไปกว่าเทคโนโลยี โดยเฉพาะเมื่อ “โรงงาน” กลายเป็นส่วนหนึ่งในคลัสเตอร์ของการระบาดด้วย

“GOOD FACTORY PRACTICE” หนึ่งในมาตรฐานที่กรมอนามัย เป็นผู้กำหนด และขอให้โรงงานทุกโรงงานต้องเข้าสู่ระบบการประเมิน Thai Stop COVID Plus เพื่อความปลอดภัย ร่วมกับการประเมินพนักงานโรงงานผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” เพื่อคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าทำงาน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า เนื่องจากในโรงงานยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนกระจายในหลายพื้นที่ ในสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ยาวนานมาเกือบ 2 ปี และขณะนี้เป็นระลอกที่ 3 ของการระบาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง กำกับ ติดตาม ควบคุม อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ข้อมูลการแพร่ระบาดในโรงงานขนาดใหญ่ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน พบว่า 5 จังหวัดอันดับที่มีรายงานติดเชื้อภายในโรงงานมากที่สุด คือ สมุทรสาคร 91 โรงงาน สมุทรปราการ 41 โรงงาน ปทุมธานี 32 โรงงาน ชลบุรี 30 โรงงาน และพระนครศรีอยุธยา 29 โรงงาน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว

กรมอนามัย จึงได้ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข กำหนดมาตรการหลักๆ 4 มาตรการ สำหรับสถานประกอบกิจการประเภทโรงงาน ประกอบด้วย

1) มาตรการด้านการป้องกันโรค มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ ลดความแออัด การเว้นระยะห่าง ติดตามข้อมูลของผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงการให้ผู้ที่อยู่ในโรงงานปฏิบัติตามมาตรการ

2) มาตรการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส การจัดการขยะมูลฝอย จัดให้มีการระบายอากาศที่เหมาะสม หอพักสำหรับผู้ปฏิบัติงานต้องสะอาด ไม่แออัด และหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม หากมีรถรับ-ส่ง ต้องมีการทำความสะอาด สำหรับการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในโรงอาหาร โดยกำหนดเส้นทางการเดิน จุดนั่ง เดิน ยืนหรือที่พักรอให้ชัดเจน แยกสำรับอาหาร และไม่ใช้แก้วน้ำ จาน ชาม ร่วมกัน

3) มาตรการเสริมสำหรับโรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ ต้องมีกลไกการจัดการและแผนเมื่อเกิดเหตุ กรณีพบพนักงานติดเชื้อต้องมีการซักซ้อมแผน หากมีแรงงานต่างด้าวต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ต้องเข้มเรื่องการคัดกรองผู้ปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อ โดยใช้ระบบประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย”
ก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อประเมินความเสี่ยงรายบุคคล

กรณีมีรถรับ-ส่ง ให้พนักงานสวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง วัดอุณหภูมิก่อนขึ้นรถ และเช็ดฆ่าเชื้อรถหลังใช้งาน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในพื้นที่ส่วนกลาง และจุดสัมผัสร่วมให้เปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น ประตู ก๊อกน้ำ เป็นต้น

4) มาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สั่งการและคำแนะนำ หลังจากนั้นให้พิจารณาปิดพื้นที่หรือสถานที่และทำความสะอาดพื้นผิวทันที ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้ส่งตรวจเชื้อและกักตนเองทันที ส่วนผู้เสี่ยงต่ำให้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้ามีผู้ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 ให้ใช้ Bub ble and seal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และให้กระบวนการผลิตสามารถดำเนินการต่อไปได้

อธิบดีกรมอนามัย บอกว่า ทั้ง 4 มาตรการ ถือเป็นแนวทางปฏิบัติ ตามกรอบ GOOD FACTORY PRACTICE ซึ่งเป็นข้อแนะนำทางด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยผู้ประกอบการต้องประเมินตนเองอย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์ ส่วนพนักงานทุกคน ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น Social Distancing เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ จัดให้มีจุดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึง เพียงพอ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และลงทะเบียนไทยชนะ หมอชนะ

ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิด Safety Factory หรือโรงงานปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการสกัดต้นตอคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก สำคัญที่สุด คือ ในอนาคตถ้าโรงงานให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่แค่ Smart Factory ที่จะไปถึง แต่ยังรวมถึงเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอีกด้วย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ