สมาคมศูนย์การค้าไทย เสนอแผนนายกฯ 5 ข้อยกระดับร้านอาหารให้เข้มข้นสูงสุด เพื่อช่วยผู้ประกอบการฝ่าวิกฤติโควิด กลับมาเปิดบริการได้ตาม
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 64 นายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ได้ส่งจดหมายถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอแนวทางการยกระดับมาตรการขั้นสูงสุดด้านสุขอนามัยในร้านอาหาร เพื่อเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสร้างแนวป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19
โดยหวังช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารใน 6 จังหวัด หลังมีนโยบายของภาครัฐออกคำสั่งห้ามรับประทานอาหารภายในร้าน ให้กลับมาเปิดบริการได้ โดยที่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มข้นของทางสาธารณสุขเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าร้านอาหารจะพร้อมให้บริการแบบมั่นใจ ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้ตระหนักถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของรัฐบาลที่ทำมาโดยตลอด โดยจะคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ในขณะเดียวกันก็คำนึงถึง ผลกระทบและความสูญเสียทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น ทางสมาคมฯ จึงได้เสนอการยกระดับมาตรการขั้นสูงสุดด้านสุขอนามัยในร้านอาหารเพิ่มขึ้นกว่ามาตรการปกติ เพื่อเป็นแนวทางให้ร้านอาหารทุกร้านทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้าสามารถปฏิบัติร่วมกันได้
โดยแผนแม่บทเชิงรุก มาตรการร้านอาหารเข้มข้นยกระดับสูงสุด ประกอบไปด้วย 5 แนวทาง คือ
1. นั่งทานอาหารมีระยะห่างและฉากกั้น (Social Distancing) นั่งได้ไม่เกิน 4 คนต่อโต๊ะ โดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลในโต๊ะไม่ให้ใกล้ชิดกัน เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะไม่ต่ำกว่า 1-2 เมตร และมีฉากกั้น โดยหม้อต้ม หรือปิ้งย่าง และอุปกรณ์การทาน ต้องใช้ 1 ชุด ต่อ 1 คน
2. สะอาดคุมเข้มทุกจุดในเชิงรุกระดับร้านอาหารในโรงพยาบาล (Deep Cleaning) เช็ดและฆ่าเชื้อโต๊ะเก้าอี้ ด้วยน้ำยาประสิทธิภาพสูงทันที ทั้งก่อนลูกค้านั่ง และหลังลูกค้าใช้บริการ พนักงานต้องล้างมือด้วยสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์เข้มข้นอย่างน้อย 70% ทั้งก่อนเตรียมอาหาร และก่อน-หลังให้บริการลูกค้า พนักงานต้องสวมถุงมือขณะให้บริการและเปลี่ยนถุงมือทุกๆ 1 ชั่วโมง เป็นต้น
3. คัดกรองเข้มงวดสูงสุด (Extra Screening) ทั้งลูกค้าและพนักงานทุกคนที่เดินเข้า-ออก ร้านต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้ง และพนักงานจะต้องป้องกัน 2 ชั้น โดยใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือใส่หน้ากากอนามัย 1 ชั้น และสวม Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ
4. ตรวจสอบพนักงานเคร่งครัด ระบุที่มาที่ไปได้ (Safety Tracking) โดยพนักงานร้านค้าทั้งหมดต้องระบุ Timeline ในการเดินทางและตอบแบบสอบถาม ก่อนเข้างานทุกวัน และจัดเก็บประวัติที่พักอาศัยของพนักงานทุกคนในศูนย์การค้า ส่วนลูกค้าให้ลงทะเบียน เพื่อสะดวกต่อการแจ้งข้อมูลลูกค้า หากมีกรณีติดเชี้อเกิดขึ้น
5. ส่งเสริมสังคมไร้สัมผัส (Touchless Experience) ด้วย Touchless เมนู และ e-Payment และหากมีการทอนเป็นเงินสด ต้องป้องกันการสัมผัส
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ, ผู้ประกอบการร้านอาหารและศูนย์การค้าต่างๆ จะร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในการปฏิบัติตามแผนยกระดับมาตรการนี้อย่างเคร่งครัดเพื่อนำไปสู่การทบทวนมาตรการเพื่ออนุญาตให้ร้านอาหารในพื้นที่ 6 จังหวัด (กรุงเทพฯ, ชลบุรี, เชียงใหม่, ปทุมธานี และสมุทรปราการ) สามารถกลับมาให้บริการแบบนั่งรับประทานในร้านได้อย่างปลอดภัยอีกครั้งโดยเร็วที่สุด