รวมกันเราสู้ (โควิด) คนขับแท็กซี่พึ่งเทคโนโลยีฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ

Economics

Thailand Econ

ไทยรัฐออนไลน์

Author

ไทยรัฐออนไลน์

Tag

รวมกันเราสู้ (โควิด) คนขับแท็กซี่พึ่งเทคโนโลยีฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ

Date Time: 26 มี.ค. 2564 06:01 น.
ไทยรัฐออนไลน์

Summary

  • แกร็บ ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม “Grab รวมใจ...พาแท็กซี่ไทยฝ่าโควิด” จัดอบรมให้ความรู้ พร้อมพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ ให้กับคนขับแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 200 ราย ถึงการใช้แอปพลิเคชัน

ในขณะที่คนไทยทั้งประเทศกำลังรอคอยอย่างมีความหวังว่าทั่วโลกจะหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ภายในสิ้นปี 2564 ได้หรือไม่ จากที่หลายประเทศได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชน หากแต่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ผู้คนที่ต้องหาเช้ากินค่ำเพื่อเลี้ยงปากท้อง จะยืนหยัดรอให้ถึงวันนั้นได้อีกนานสักแค่ไหน การปรับตัวและการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งจำเป็นในห้วงยามนี้

“วิกฤติโควิดครั้งนี้กำลังจะทำให้คนอดตาย สำหรับผมที่ต้องอาศัยผู้โดยสาร นักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการแท็กซี่ พอโควิดระบาด รายได้ผมหายไปเลยไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยหาเงินได้หลักพัน เงินที่หาได้ในแต่ละวันลดลงเหลือเพียงแค่ 200-300 บาท” เดชาทรัพย์ อบอารีย์ หนึ่งในคนขับแท็กซี่ในจังหวัดกรุงเทพฯ เล่า

จนเดือนสิงหาคม 2563 ก็คิดว่าอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เลยตัดสินใจสมัครแกร็บ ทั้งๆ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ตอนนั้นคิดว่าจะรอผู้โดยสารในเมืองโบกเรียกอย่างเดียวไม่ได้ ช่วงแรกๆ ก็ลองผิดลองถูก เพราะเราขับแท็กซี่เป็นอาชีพหลัก ไม่ค่อยได้ใช้งานเทคโนโลยี แต่ก็รู้ว่าความรู้เรื่องเทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็น และช่วยสร้างรายได้ที่ดีขึ้นได้”

“เดชาทรัพย์” เป็นหนึ่งในคนขับแท็กซี่จำนวนมากที่กำลังต้องต่อสู้กับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันกลุ่มคนขับแท็กซี่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการหาเลี้ยงชีพจากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง และหันมาให้ความสนใจกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์เพื่อการสร้างรายได้ และพัฒนาตนเองให้เท่าทันโลกยุคดิจิทัล

เมื่อเร็วๆ นี้ แกร็บ ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม “Grab รวมใจ...พาแท็กซี่ไทยฝ่าโควิด” โดยผนึกความร่วมมือกับ สมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย สภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะไทยสมาคม เครือข่ายชมรมผู้ขับแท็กซี่ 4.0 และ ชมรมแท็กซี่ไทยพัฒนา ซึ่งมีสมาชิกรวมทั้งสิ้นกว่า 4-5,000 คัน ร่วมด้วย กองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) กระทรวงการคลัง และสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จัดอบรมให้ความรู้ พร้อมพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ ให้กับคนขับแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 200 ราย ถึงการใช้แอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงผู้โดยสาร

รวมทั้งมีการอบรมภายใต้คอนเซปต์ “หา ใช้ ออม” การวางแผนการเงินส่วนบุคคลเบื้องต้น การออมเงินเพื่อเตรียมรับกับวัยเกษียณ โดยสามารถส่งเงินออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับประกันสังคมมาตรา 40 เพื่อให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน เช่น เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร เป็นต้น

ดร.เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า แกร็บเชื่อมั่นว่าแอปพลิเคชันถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้คนขับแท็กซี่เพิ่มโอกาสในการหารายได้ สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ สอดคล้องกับงานวิจัยของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุว่า 99% ของคนขับแท็กซี่ที่เคยใช้บริการแอปเรียกรถยืนยันว่าช่วยให้เข้าถึงลูกค้าและทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันประเทศไทยมีคนขับแท็กซี่อยู่ราว 80,000 คันทั่วประเทศ แต่มีคนขับจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และไม่เคยใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้

“กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นโอกาสในการสื่อสารและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล รวมไปถึงการให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงินให้กับคนขับแท็กซี่ ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจในการดำเนินธุรกิจของแกร็บที่เรียกว่า GrabForGood หรือแกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ที่ต้องการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิต โดยมุ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาทักษะ และเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อให้ทุกคนสามารถก้าวทันเศรษฐกิจดิจิทัลได้”

สำราญ สุระ อีกหนึ่งเสียงจากคนขับแท็กซี่ กล่าวว่า ผมขับแท็กซี่มา 15 ปี มองเห็นว่าโลกเปลี่ยนไปมาก ผู้โดยสารไม่ค่อยมายืนโบกรอเรียกแท็กซี่กันแล้ว เพราะแอปเรียกแท็กซี่ช่วยหาแท็กซี่ง่ายและสะดวกขึ้น เราก็ควรต้องเอาตัวเองไปอยู่ตรงที่ผู้โดยสารอยู่ ผมสมัครเป็นพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บแท็กซี่มาได้เกือบ 4 ปี จนตอนนี้อยู่ในระดับ Hero หรือคนขับที่ทำผลงานสูงสุดแล้ว

“การรับงานผ่านแอปพลิเคชันเรียกรถยังทำให้คนขับแท็กซี่ได้รับเอกสารรับรองรายได้จากผู้ให้บริการ ทำให้เข้าถึงบริการทางการเงินรูปแบบต่างๆ เพื่อส่งเสริมในการสร้างรายได้และจุนเจือครอบครัว แล้วช่วงก่อนโควิดผมทำรายได้ดีเลย แต่ผลกระทบช่วงโควิดทำให้รายได้ลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ต้องรับงานส่งอาหาร ส่งของบ้าง ถึงรายได้จะไม่ดีเหมือนขับรถส่งผู้โดยสาร แต่ดีกว่าเราไม่มีรายได้เข้ามาเลย ตอนนี้สถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นมาบ้าง และเริ่มคิดถึงการออม เมื่อผมและคนขับหลายคนมีโอกาสฟังรายละเอียดเรื่องการออมจากกองทุนการออมแห่งชาติ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าคนขับแท็กซี่ก็เข้าโครงการได้ ตอนนี้ผมก็เลยเพิ่งสมัครเข้าโครงการของ กอช. แล้ว ตั้งใจว่าต้องออมเงินเรื่อยๆ เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ เราต้องปรับตัวและเตรียมพร้อมไว้ก่อน”

ด้าน สุวรรณ อ้นสังฆ์ สมาชิกคนขับจากสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ที่เข้าร่วมงาน กล่าวว่า ผมคิดว่ากิจกรรมที่แกร็บ ประเทศไทย จัดขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างโอกาสให้คนขับแท็กซี่ได้เรียนรู้และปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยี โดยเฉพาะที่เราต้องการเข้าถึงผู้โดยสารมากขึ้นกว่าเดิม

“แอปพลิเคชันเรียกรถก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับคนขับแท็กซี่ อย่างระบบ AI ที่ช่วยจับคู่คนขับรถกับผู้โดยสารที่ต้องการเรียกรถ ทำให้คนขับแท็กซี่ไม่ต้องขับวนหาผู้โดยสารไปเรื่อยๆ มีระบบ GPS ที่ช่วยแนะนำเส้นทาง ทำให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัด และพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายได้รวดเร็วขึ้น หรือเทคโนโลยีแปลภาษา ที่ช่วยให้คนขับสามารถสื่อสารกับผู้โดยสารต่างชาติได้ง่ายขึ้น”

เวลาเปลี่ยน เทคโนโลยีก้าวหน้า วิถีชีวิตของคนขับแท็กซี่ก็ต้องปรับตาม.


Author

ไทยรัฐออนไลน์

ไทยรัฐออนไลน์