คุมหลอกขายสินค้าออนไลน์ สคบ.ผนึกกำลังรัฐเอกชนแก้ปัญหาโกง

นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ครั้งใหม่ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น

โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ครอบคลุมตั้งแต่การร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการป้องกันแก้ปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย และการให้ความรู้กับผู้บริโภคได้รู้เท่าทันกลโกงใหม่ๆที่เกิดขึ้น “ล่าสุด สคบ.ได้หารือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อร่วมมือแก้ไขปัญหา เพราะการซื้อขายออนไลน์มีแนวโน้มเข้าข่ายเป็นคดีอาญามากขึ้น มีผู้บริโภคถูกฉ้อโกง ซื้อสินค้ามาแล้วเกิดปัญหาแต่หาตัวตนของผู้ขายไม่ได้ ปิดเว็บไซต์หนี หรือผู้บริโภคโอนเงินไปแล้วกลับไม่ส่งสินค้ามาให้ ซึ่งกรณีลักษณะนี้เกิดขึ้นประจำ”

ขณะเดียวกัน เดือน ม.ค.นี้ จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มสินค้าออนไลน์ โดยเริ่มจากรายใหญ่ก่อน เช่น ช้อปปี้ ลาซาด้า เจดี เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องการซื้อขายสินค้าออนไลน์ เฝ้าระวังสินค้าที่ผิดกฎหมาย และช่วยกันคัดกรองผู้ขายสินค้าที่ไม่มีประวัติหลอกลวง และจะมีการออกมาตรการ หรือแนวทางเกี่ยวกับการดูแลผู้บริโภคที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่ง สคบ.ได้ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อขายสินค้าออนไลน์ย้อนหลัง 5 ปี ถึงการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค และจะนำมาใช้เป็นแนวทางการดูแลธุรกิจนี้ไม่ให้ผู้บริโภคถูกหลอกลวง

นอกจากนี้ สคบ.จะบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดมากขึ้น หากพบว่ามีการหลอกลวง หรือทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนจะจัดการเด็ดขาดทั้งกฎหมายของ สคบ.เอง หรือประสานหน่วยงานอื่นนำกฎหมายที่ดูแลอยู่ไปดำเนินการ รวมถึงการไกล่เกลี่ยที่จะนำระบบออนไลน์มาใช้มากขึ้น และจะหารือกับสมาคมออนไลน์ของไทยให้ช่วยกันดูแล และกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจกันเองให้ดีมากขึ้น.