เอกชนทนไม่ไหวยื่นสมุดปกขาวถึงรัฐ เรื่องปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลสรุปการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 38 ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในวันที่ 27 พ.ย.63 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมว่า สมาชิกหอการค้าไทยทั่วประเทศได้ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งหอการค้าไทยได้นำมาสรุปและจัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอต่อรัฐบาลผ่านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ที่มาร่วมงาน และกล่าวปาฐกถาด้วย

โดยในสมุดปกขาวได้เสนอประเด็นต่างๆ คือ

1.เสนอให้รัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศผ่าน Happy Model : โมเดลอารมณ์ดี มีความสุข 4 ด้าน ประกอบด้วย กินดี อยู่ดี ออกกำลังกายดี และแบ่งปันสิ่งดีๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ สร้างงาน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เพื่อให้ประเทศกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและยั่งยืน

2.บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

3.ปรับปรุงกฎ ระเบียบ และกระบวนการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว

4.เพิ่มความสามารถแข่งขันของประเทศ และ 5.กระตุ้นการใช้จ่ายทางเศรษฐกิจ ด้วยการขยายระยะเวลามาตรการโครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพิ่มสิทธิประโยชน์โครงการช้อปดีมีคืน ส่งเสริมมาตรการสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการในภาคท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือ รัฐบาลต้องดูแลความสงบของประเทศ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมร่วมทำงานกับรัฐบาลในทุกมิติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย

ส่วนนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “วิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ” ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเข้มงวด ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดต่อเนื่อง เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัว สิ่งที่รัฐบาลต้องทำ ต่อเนื่องไปในปีหน้าคือ ดึงนักลงทุนให้ย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น โดยไตรมาสแรกของ ปี 64 รัฐบาลจะหาข้อสรุปในเรื่องการลงทุน 7 อุตสาหกรรมใหม่ ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมถึงจะปรับรูปแบบการท่องเที่ยว โดยจะดึงนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากขึ้น สำหรับ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างต่างๆ ทางเศรษฐกิจ จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนในปี 64 และจะเห็นผลสำเร็จในปี 65 และคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 64 จะเริ่มเป็นบวกได้ ส่วนปีนี้น่าจะติดลบน้อยกว่า 6%.