กระตุ้นต่างชาติซื้อบ้านในไทย อีลิทการ์ดขายหนักแถม Work Permit

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

กระตุ้นต่างชาติซื้อบ้านในไทย อีลิทการ์ดขายหนักแถม Work Permit

Date Time: 14 ต.ค. 2563 09:05 น.

Summary

  • มิติใหม่แห่งการขาย อีลิทการ์ดเปิดตัวโครงการอีลิท เฟล็กซิเบิล ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย 10 ล้านบาท ได้สิทธิรับบัตรอีลิทแถมวีซ่าระยะยาว

Latest

“โกโก้ร้านไอ้ต้น” แฟรนไชส์สัญชาติไทย ปีเดียว ขยายสาขา 160 แห่งในจีน ความแปลก ที่กลายเป็นเอกลักษณ์

มิติใหม่แห่งการขาย อีลิทการ์ดเปิดตัวโครงการอีลิท เฟล็กซิเบิล ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย 10 ล้านบาท ได้สิทธิรับบัตรอีลิทแถมวีซ่าระยะยาว ส่วนสมาชิกบัตรที่ลงทุนในไทย 30 ล้านบาทขึ้นไป รับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)ไปเลย โดยไม่ต้องถือวีซ่าประเภท Non–Immigrant B–Visa คาดดันเม็ดเงินลงทุนต่างชาติในไทยเพิ่มได้ 2 หมื่นล้านบาท

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้เรียกประชุมเพื่อหาแนวทางกระตุ้นการซื้อและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในไทยของชาวต่างชาติผ่านการเป็นสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิทการ์ด ภายใต้โครงการอีลิท เฟล็กซิเบิล โดย ททท.จะเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ.ในเร็วๆนี้

สำหรับรายละเอียดของโครงการประกอบด้วย 2 ทางเลือก ทางเลือกที่ 1 คือ Flex One เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์พ่วงบัตรอีลิทการ์ด โดยชาวต่างชาติที่ลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในไทย 10 ล้านบาทขึ้นไปทางผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯสามารถซื้อบัตรอีลิทการ์ด มูลค่า 500,000 บาทถึง 2 ล้านบาทแถมให้ผู้ซื้อ นอกเหนือจากการให้วีซ่าระยะยาว 5-20 ปีขึ้นกับประเภทของบัตรฯมอบแก่ลูกค้าชาวต่างชาติ แนวทางนี้น่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายอสังหาฯได้ง่ายขึ้น จูงใจผู้ซื้อชาวต่างชาติที่อยากได้วีซ่าระยะยาวเข้ามาลงทุนในไทยในสถานการณ์โควิดแบบนี้

ส่วนทางเลือกที่ 2 คือ Flex Plus ชาวต่างชาติต้องสมัครเป็นสมาชิกบัตรอีลิทการ์ดก่อน มูลค่าบัตรไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งจะได้วีซ่าระยะยาว 10 ปีขึ้นไป แล้วต้องลงทุนในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯขึ้นไปหรือประมาณ 30 ล้านบาท ภายใน 1 ปี จะได้สิทธิ์ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ในไทย ซึ่งสมาชิกบัตรอีลิทการ์ดปัจจุบันที่ยังมีอายุสมาชิกเหลือไม่น้อยกว่า 5 ปี สามารถเข้าเงื่อนไขนี้ได้ เพราะ ททท.ต้องการให้คงเงินทุนไว้ในไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยสามารถลงทุนได้ทั้งในภาคอสังหาฯหุ้น พันธบัตร พันธบัตรรัฐบาล และเงินฝาก

ทั้งนี้ หากที่ประชุม ศบศ.เห็นชอบในหลักการก็จะนำเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป เพื่อพิจารณาให้สมาชิกบัตรอีลิทการ์ด ซึ่งได้วีซ่าระยะยาวสามารถยื่นขอใบอนุญาตทำงานได้โดยไม่ต้องถือวีซ่าประเภท Non-Immigrant B-Visa เพราะตามหลักกฎหมายแล้วจะต้องถือ Non-Immigrant B-Visa ก่อน ถึงจะขอใบอนุญาตทำงานได้

“ททท.คาดว่าจะเริ่มดำเนินโครงการอีลิท เฟล็กซิเบิล ได้ในปี 2564 หากสามารถขายบัตรอีลิท การ์ดผ่านโครงการดังกล่าวได้ 1,000 บัตร แบ่งเป็นยอดขายจากทางเลือกที่ 1 จำนวน 500 บัตร คิดเป็นเม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และยอดขายจากทางเลือกที่ 2 อีก 500 บัตร คิดเป็นเม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท จะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจไทยรวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่รวมกับมูลค่าเงินสะพัดที่เกิดจากสมาชิกบัตรอีลิทการ์ดจะมาใช้จ่ายในประเทศไทย”

นอกจากนี้ นายสุพัฒนพงษ์ได้มอบหมายให้ ททท. กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA และสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนกรุงเทพฯ ภายใต้รูปแบบนิวนอร์มอล ไม่ให้กระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง และยังเป็นการดึงคนต่างจังหวัดเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เน้นรองรับกลุ่มครอบครัว โดยเบื้องต้นอาจจะเป็นการจัดอีเวนต์ตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้ไปจนถึงช่วงปีใหม่.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ