น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา กำหนดหลักเกณฑ์และการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน หลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิ์ในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลที่สมัครเป็นผู้ประกันตน โดยปรับปรุงการจ่ายประโยชน์ทดแทนค่าทำศพ และเงินสงเคราะห์กรณีถึงแก่ความตาย สำหรับบุคคลที่ไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละ 70 บาท หรือเดือนละ 100 บาท ถึงแก่ความตาย เดิมได้เงินค่าทำศพ 20,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาท เงินสงเคราะห์เดิม 3,000 บาท เพิ่มเป็น 8,000 บาท ผู้ที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละ 300 บาท ถึงแก่ความตาย เดิมได้ค่าทำศพ 40,000 บาท อัตราใหม่ 50,000 บาท
ทั้งนี้ รายรับของกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 30 เม.ย. มีผู้ประกันตน 3,353,939 คน จัดเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนปีที่ผ่านมา 1,557 ล้านบาท เงินสมทบจากรัฐบาล 779 ล้านบาท มีการจ่ายประโยชน์ทดแทนให้กับที่ถึงแก่ความตายเป็นเงินค่าทำศพและเงินสงเคราะห์ 200 ล้านบาท คาดว่าปี 2563-2564 ต้องจ่ายเงินค่าทำศพเพิ่มขึ้นปีละ 77 ล้านบาท เงินสงเคราะห์เพิ่มขึ้นปีละ 93 ล้านบาท
“ครม.ได้เห็นชอบให้ประเทศไทย เข้าร่วมมหกรรมพืชสวนโลก 2022 วันที่ 14 เม.ย.-9 ต.ค. 2565 โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ภายใต้งบ 187 ล้านบาท”.