ทุ่มแสนล้านบาทฟื้นฟูเศรษฐกิจ จ้างเด็กจบใหม่-เพิ่มทักษะฝีมือแรงงานในระบบ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ทุ่มแสนล้านบาทฟื้นฟูเศรษฐกิจ จ้างเด็กจบใหม่-เพิ่มทักษะฝีมือแรงงานในระบบ

Date Time: 10 ก.ย. 2563 08:05 น.

Summary

  • สศช.การันตีเดือน ต.ค.นี้เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติหลักการใช้เงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เฟสสอง อีก 9 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาทใช้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ การจ้างงานให้ต่อเนื่อง หลังจากเฟสแรกที่ ครม.เห็นชอบหลักก

Latest

“พิชัย” เปิดเวทีชวนนักลงทุนเข้าไทย

สศช.การันตีเดือน ต.ค.นี้เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติหลักการใช้เงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เฟสสอง อีก 9 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาทใช้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ การจ้างงานให้ต่อเนื่อง หลังจากเฟสแรกที่ ครม.เห็นชอบหลักการไป 92,000 ล้านบาท นำรายละเอียดโครงการผ่าน ครม.แล้ว 43,000 ล้านบาท จะเกิดการจ้างงาน 1.2 แสนราย ย้ำเดือน ต.ค.นี้เงินจำนวนมากจะทยอยลงสู่ระบบ

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.นี้จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาการใช้เงินกู้ก้อนที่มีไว้สำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม เฟส 2 วงเงิน 90,000-100,000 ล้านบาท หลังจากที่ ครม.ได้เห็นชอบหลักการของการใช้เงินในเฟสแรกไปแล้ว 92,000 ล้านบาท มีเป้าหมายการจ้างงาน 410,415 ราย ส่วนในเฟสที่ 2 ยังคงเน้นโครงการที่ก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มเติม รวมทั้งทำเรื่องของการพัฒนาทักษะแรงงานที่มีอยู่ในระบบให้สูงขึ้นด้วย เพื่อให้คนที่อยู่ในวัยแรงงานมีทักษะที่เหมาะสมกับแนวโน้มโลกในอนาคต

สำหรับความคืบหน้าของการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ก้อนแรก 550,000 ล้านบาท ใช้ไปมากที่สุด 344,734 ล้านบาท เพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวม 30.51 ล้านราย อาทิ จ่ายเยียวยาให้กับเกษตรกรรายละ 15,000 บาท รวม 7.526 ล้านราย วงเงิน 114,352 ล้านบาท กลุ่มอาชีพอิสระ 16 ล้านราย วงเงิน 159,583 ล้านบาท กลุ่มเปราะบาง 6.65 ล้านราย วงเงิน 20,153 ล้านบาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1.025 ล้านราย วงเงิน 3,087 ล้านบาท และชดเชยลูกจ้าง 70,000 ราย วงเงิน 109 ล้านบาท ฉะนั้นเงินกู้ก้อนนี้คงเหลือ 210,265 ล้านบาท ซึ่งโครงการที่รัฐบาลกำลังพิจารณานำเงินที่เหลือมาใช้ เช่น จ้างงานนักศึกษาจบใหม่ 260,000 คน ประมาณ 20,000 ล้านบาท โครงการ “คนละครึ่ง” ที่กระทรวงการคลังกำลัง พิจารณาแจกเงิน 3,000 บาทให้ผู้รับสิทธิ์ 15 ล้านคน

ขณะที่เงินก้อนที่สองจัดสรรให้ด้านสาธารณสุข 45,000 ล้านบาท ขณะนี้ใช้ไป 100 กว่าล้านบาท ยังไม่รวมที่ ครม.อนุมัติให้ 1,000 ล้านบาท สำหรับจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด และก้อนที่ 3 วงเงิน 400,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในเฟสแรกที่ ครม.เห็นชอบในหลักการ 92,000 ล้านบาท มีโครงการที่ ครม.เห็นชอบแล้ว 43,000 ล้านบาท รอการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองฯ และ ครม. กว่า 47,000 ล้านบาท เช่นโครงการเกษตรแปลงใหญ่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โครงการจ้างนักศึกษา 60,000 อัตรา ในโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย

“วงเงิน 400,000 ล้านบาทที่ตั้งใจนำมาใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จากที่ ครม.อนุมัติในเฟสแรกไปแล้ว 43,000 ล้านบาท ขณะนี้มีเงินที่ทยอยเข้าสู่ระบบจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีผู้ใช้สิทธิ์ห้องพักแตะ 1 ล้านคืนแล้ว เชื่อว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และรัฐบาลได้ปรับรูปแบบโครงการให้ได้รับการตอบรับมากยิ่งขึ้น”

ขณะเดียวกันโครงการอื่นๆเงินจะเข้าสู่ระบบตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป ส่วนที่เคยต้องการให้เงินลงสู่ระบบเร็วกว่านี้ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นมา เพราะต้องผ่านการพิจารณาโครงการให้รอบคอบ ล่าสุด ณ วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาหลายๆโครงการที่ผ่านการอนุมัติจาก ครม.ไปแล้ว สามารถจ้างงานได้ 112,907 ราย ผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านสัตว์ป่า, โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ฯลฯ

“การขออนุมัติเงินกู้ในส่วนของเงินกู้ 400,000 ล้านบาท แบ่งการเสนอออกเป็น 4 เฟส การทยอยอนุมัตินี้จะทำให้เงินทยอยลงสู่ระบบเศรษฐกิจ และเป็นการบริหารเงินที่มีอยู่โดยดูจากสถานการณ์ที่ต้องมีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดระยะที่ 2 ด้วย หากมีการแพร่ระบาดก็มีเงินในส่วนนี้ดูแลเศรษฐกิจอยู่อีกส่วนหนึ่ง แต่หากไม่มีเงินจำนวนนี้ก็จะลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านโครงการที่คิดผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ได้เพิ่มเติม ”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ