กรมศุลประมูลรถหรู 200 คัน “เศรษฐีไทย” เตรียมยกป้ายลุยสู้ราคา

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

กรมศุลประมูลรถหรู 200 คัน “เศรษฐีไทย” เตรียมยกป้ายลุยสู้ราคา

Date Time: 23 ก.ค. 2563 06:15 น.

Summary

  • กรมศุลกากรเปิดประมูลรถหรูกว่า 200 คัน ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ผ่าน 2 ระบบ ทั้งระบบออนไลน์และยกป้ายหน้าลานในคราวเดียวกัน

Latest

“พิชัย” เปิดเวทีชวนนักลงทุนเข้าไทย

(ภาพ : ชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร)

กรมศุลกากรเปิดประมูลรถหรูกว่า 200 คัน ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ผ่าน 2 ระบบ ทั้งระบบออนไลน์และยกป้ายหน้าลานในคราวเดียวกัน ป้องกันปัญหาผู้มีอิทธิพล คาดมีรายได้เข้ารัฐ ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ยืนยันจดทะเบียนได้แน่นอน หากประมูลไปแล้วกรมการขนส่งทางบกไม่จดให้ คืนเงินเต็มจำนวน

นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมจะจัดงานประมูลรถของกลาง ประจำปี 2563 ใน 2 รูปแบบคือ วิธีการประมูลด้วยวาจา (ยกป้ายหน้าลาน) และระบบประมูลออนไลน์ ระบบ SIA Real-time online Auction System ไปพร้อมกัน โดยมีรถของกลางจำนวนกว่า 200 คัน และเป็นการเปิดประมูลรถของกลางครั้งแรกในรอบ 3 ปี

“ถือเป็นครั้งแรกของกรมศุลกากรที่เปิดประมูลด้วย 2 วิธี โดยการประมูลจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 ส.ค.2563 ณ ลานจอดรถหน้าส่วนของกลาง กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร คลองเตย โดยมอบหมายให้ บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด (SIA) เป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป”

สำหรับรถยนต์ในกลุ่มซุปเปอร์คาร์ที่น่าสนใจ อาทิ เฟอร์รารี่ แคลิฟอร์เนีย (Ferrari California) ราคามือสองอยู่ที่ 13 ล้านบาท, โพร์เช พานาเมรา เทอร์โบ (Porsche Panamera Turbo) ราคามือสองอยู่ที่ 14-15 ล้านบาท เบนท์ลีย์ (BENTLEY) ราคามือสองอยู่ที่ 20 ล้านบาท เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ราคาเริ่มต้นประมูลจะตั้งจากราคาจริงของรถยนต์ประมาณ 20% เท่านั้น เพื่อให้มีการไล่ราคาประมูล ผ่านทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์เพื่อสร้างความเป็นธรรม ป้องกันปัญหาผู้มีอิทธิพลที่สร้างความเกรงใจในการประมูลหน้างาน โดยมีรถหรูร่วมประมูลครั้งนี้ทุกยี่ห้อกว่า 10 คัน

“การประมูลรถยนต์จะเป็นไปตามสภาพ บางคันใช้เวลาในการดำเนินคดียาวนานถึง 5 ปี จึงมีโอกาสที่รถยนต์คันนั้นอาจสตาร์ตไม่ติดได้ซึ่งผู้ประมูลก็ต้องรับสภาพและนำไปซ่อมบำรุงต่อไป อย่างไรก็ตาม รถยนต์ของกลางจำนวน 200 คัน แบ่งเป็น ราคาเริ่มต้นประมูลต่ำกว่า 500,000 บาท จำนวนทั้งสิ้น 75 คัน ราคาเริ่มต้นประมูล 500,000-1.5 ล้านบาท จำนวน 90 คัน ราคาประมูลตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 35 คัน”

ทั้งนี้ การประมูลรถของกลาง 2 วิธี จะทำให้ผู้เข้าประมูลได้รับความสะดวก ลดค่าใช้จ่ายเดินทาง ประมูลได้ทุกที่และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 สามารถรองรับการประมูลสำหรับผู้เข้าประมูลจำนวนมากในคราวเดียวกัน โดยคาดว่าการประมูลครั้งนี้จะมีรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมประมูลเริ่มลงทะเบียนออนไลน์ และชำระเงินมัดจำป้าย (เงินค้ำประกันการประมูล) พร้อมทั้งดูรายละเอียดรถ ชมคลิปรีวิว รวมถึงขั้นตอนการประมูลได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2563 จนถึงวันประมูล ที่ https://customsauction.sia.co.th  ของบริษัทสยามอินเตอร์การประมูล ส่วนใครสนใจชมสภาพรถจริง เข้าชมได้ ตั้งแต่วันที่ 5-7 ส.ค.2563 เวลา 09.00-18.00 น. ณ ลานจอดรถหน้าส่วนของกลาง กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร คลองเตย

“กรมศุลกากรได้ส่งรายละเอียดรถยนต์ของกลาง จำนวน 200 คันที่ประมูลทั้งหมดกับกรมการขนส่งทางบกแล้ว โดยขอยืนยันว่ารถยนต์เหล่านี้สามารถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้ หากเกิดกรณีประมูลรถยนต์ไปแล้ว และไม่สามารถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งได้ เนื่องจากเป็นรถจดประกอบ หรือกรมการขนส่งทางบกปฏิเสธการจดทะเบียน ผู้ที่ประมูลสามารถนำรถเหล่านี้มาคืนได้ภายใน 5 เดือนนับจากวันประมูล โดยจะคืนเงินให้เต็มจำนวน”

ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมประมูลจะต้องวางเงินค่ามัดจำป้าย ตามจำนวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ต้องการประมูล โดย 1 ป้ายประมูล สามารถประมูลรถได้ 1 คันเท่านั้น อาทิ รถของกลางที่ราคาเปิดประมูลต่ำกว่า 500,000 บาท ต้องวางเงินค่ามัดจำป้ายคันละ 50,000 บาท รถของกลางราคา 500,000-1.49 ล้านบาท วางเงินค่ามัดจำป้าย คันละ 100,000 บาท และรถของกลาง 1,500,000 บาทขึ้นไป วางเงินค่ามัดจำป้าย คันละ 200,000 บาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ