นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความ คืบหน้าโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิตว่า เดิมโครงการดังกล่าวมีกำหนดที่จะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 64 แต่เนื่องจากผู้รับจ้างขอยื่นขยายสัญญาการก่อสร้างออกไปอีกเป็น 1,122 วัน ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงคมนาคมรอรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก่อน และจากการรายงานของกรมการขนส่งทางรางยืนยันว่า เมื่อพิจารณากรอบเวลาการขยายสัญญาแล้ว สามารถลดบางขั้นตอนได้ ในสัปดาห์หน้าจะจัดประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปต่อไป
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าจะเปิดให้บริการได้เมื่อไหร่นั้น ต้องพิจารณาบนพื้นฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก รวมถึงในส่วนงานโยธาของช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันเสร็จ ถึงแม้จะแล้วเสร็จเกือบทั้งหมดแล้วนั้น ต้องมาพิจารณาว่า การจะเปิดให้บริการ มีในส่วนการวางระบบอาณัติสัญญาณด้วย ทั้งนี้ หากประเมินว่าสามารถเปิดเดินรถได้ ก็จะดำเนินการต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในส่วนการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) นั้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลจึงต้องใช้งบประมาณในการป้องกันเยียวยา และฟื้นฟูจากสถานการณ์ดังกล่าวไปจำนวนมาก และขณะนี้การก่อหนี้สาธารณะก็มีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 58% เกือบชนเพดาน 60% แล้ว การนำเอกชนเข้าร่วมลงทุนจึงเป็นการลดภาระต่องบประมาณ ลดการก่อหนี้ในอนาคต และประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด มีภาระค่าโดยสารต่ำ รัฐต้องไม่เสียเปรียบ และเอกชนสามารถเดินหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่อง PPP นั้น ต้องเสนอให้คณะกรรมการ PPP และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจแห่งชาติ (คนร.) พิจารณาต่อไป
“เรื่องรถไฟสายสีแดงไม่ต้องกังวล และไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร เพราะผมใช้หลักธรรมาภิบาลในการทำงาน โปร่งใส มีส่วนร่วม และตรวจสอบได้ โดยในสัปดาห์หน้าต้องสรุปให้ได้ ต้องมาดูข้อเท็จจริง และเป็นไปตามหลักกฎหมาย รวมถึงเหตุผลต่างๆ” นายศักดิ์สยามกล่าว.