“ไลน์” พร้อมจ่ายแวตให้รัฐบาลไทย

นายพิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์ (LINE) ประเทศไทย เปิดเผยว่า ไลน์มีความพร้อมต่อการดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายของรัฐบาล ทั้งความริเริ่มในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ไม่มีบริษัทลูกในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.อีเซอร์วิส ตลอดจนการกำหนดให้บริการส่งถึงบ้านหรือดีลิเวอรี (Delivery Service) เป็นสินค้าควบคุม ซึ่งอาจมีผลให้บริการไลน์แมน (LINE MAN) ถูกควบคุมค่าบริการ

“นโยบายหลักจากบริษัทแม่ของไลน์ (บริษัท Naver จากประเทศเกาหลีใต้) กำหนดชัดเจนว่า ให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายในประเทศที่เราเข้าไปทำธุรกิจ เราจึงยินดีที่จะปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ขอให้ผู้ใช้งานไลน์สบายใจได้”

นายพิเชษฐ กล่าวว่า มั่นใจว่าไลน์จะสามารถแข่งขันได้ แม้ถูกควบคุมราคาหรือจัดเก็บภาษี เนื่องจากอยู่ในตลาดมานานพอ มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก แม้นโยบายของรัฐบาลอาจทำให้ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่ใช่ปัญหาหนักหนาอะไรและเชื่อว่าสามารถรับมือได้

ไลน์ ประเทศไทยซึ่งแถลงวิสัยทัศน์ของบริษัทในปี 2563 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เปิดยอดผู้ใช้งานแตะ 46 ล้านราย เพิ่มขึ้นจาก 44 ล้านรายเมื่อปีก่อนหน้า และเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานใช้เวลานานเฉลี่ย 1 ใน 3 ของเวลาที่ใช้อยู่ในโลกออนไลน์

นายพิเชษฐ กล่าวอีกว่า บริการของไลน์ทั้งหมดได้รับผลบวกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้คนหันมาใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น จนสามารถเรียกได้ว่าไลน์เป็นไลฟ์สไตล์ของวิถีชีวิตในยุคใหม่ โดยรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ไม่ได้รับผลกระทบและยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ แต่ปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขชัดเจน ทั้งนี้ รายได้ของไลน์ประเทศไทย มาจาก 1.ธุรกิจคอนเทนต์ 2.ธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กร 3.รายได้จากค่าโฆษณา ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดงบโฆษณาเหมือนธุรกิจสื่ออื่นๆ.