จับตาพฤติกรรมใหม่ผู้บริโภค แนะธุรกิจหาโอกาสก่อนคู่แข่ง

เตรียมรับ New Normal หลังโควิด นีลเส็นเตือนธุรกิจมองหาโอกาส ปรับก่อนจะเปลี่ยนไปอย่างถาวรจนตามไม่ทัน ด้านไลน์พบใช้งานทะลักทลายทุกช่องทาง ทั้งอ่านข่าว โทรไลน์ ส่งสติกเกอร์ โดยเฉพาะข่าวเศรษฐกิจ-ปากท้องโตกระฉูด ยอดคนอ่านเพิ่ม 75% สติกเกอร์เกี่ยวกับโควิดขายดี

น.ส.สมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะนีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในงาน Live Event LINE for Business ระบุ จากข้อมูลของนีลเส็นในหลายประเทศ พบว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกกำลังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็น New Normal (ความปกติในรูปแบบใหม่) ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจในการทำความเข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและปรับตัวให้ทัน ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบถาวร

ทั้งนี้ นีลเส็นกำหนดช่วงเวลาที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในระหว่างการแพร่ระบาดออกเป็น 6 ช่วงด้วยกัน เริ่มจาก

1.เหตุการณ์ปกติ มีการจับจ่ายใช้สอยเช่นเดิม

2.เริ่มตระหนักรู้ในข่าว ติดตามข่าวสารข้อมูลและเป็นกังวล

3.ตื่นตระหนก แห่กักตุนสินค้า

4.กักตัวเพื่อให้ปลอดภัยจากโรค

5.ปิดประเทศ ปิดกั้นการเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง

6.การใช้ชีวิตแบบ New Normal หลังโรคระบาด โดยขณะนี้ไทยอยู่ในช่วง 3-4

ยกตัวอย่างข้อมูลของนีลเส็นในจีนพบว่า New Normal ใหม่คือการรับประทานอาหารที่บ้าน การทำงานที่บ้าน และการออกกำลังกายที่บ้าน นอกจากนั้นยังพบว่าสินค้าในประเทศหรือท้องถิ่น ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาดในกระบวนการขนส่ง

การทำธุรกิจในยุคโควิดให้ประสบความสำเร็จ ต้องมองไปข้างหน้า ในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ เมื่อเปิดร้านค้าไม่ได้ ก็ต้องใช้เทคโนโลยีด้วยการก้าวสู่โลกออนไลน์ ซึ่งต้องเตรียมพร้อมเรื่องการขนส่งให้ดีด้วย รวมทั้งควรใช้โซเชียลมีเดียช่วยขับเคลื่อนยอดขายเพราะต้นทุนไม่สูงนัก

“สถานการณ์เช่นนี้ ยังเป็นโอกาสในการทดลองการขายแบบใหม่ๆ เช่น การขายโดยไม่ต้องใช้คนขายซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้น่าจะทำให้ผู้ซื้อสบายใจกว่า โดยขณะนี้เครื่องสำอางบางแบรนด์ได้เริ่มการขายในรูปแบบนี้แล้ว หรือในจีนที่ขายรถราคาแพงผ่านวิดีโอสตรีมมิง ตลอดจนการหาลูกค้าระบบสมาชิกในสินค้าประเภทน้ำดื่ม นม ไข่ ช่วยสร้างยอดสั่งซื้อประจำ ยอดรายได้สม่ำเสมอ ขณะเดียวกัน หากสามารถเพิ่มคุณสมบัติของสินค้าให้สะอาด ปลอดไวรัส ก็จะทำให้เพิ่มราคาขายได้โดยง่าย”

ด้านนายกณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนต์ ไลน์ (LINE) ประเทศไทย เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิดทำให้ยอดเข้ารับชมข่าวผ่านไลน์ทูเดย์ (LINE Today) เพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า แต่ละวันมีการคลิกเข้าอ่านข่าวเกี่ยวกับโควิดวันละ 900,000 คลิก โดยข่าวที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ ปากท้อง มียอดอ่านเติบโต 75% ขณะที่คอนเทนต์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์เพิ่มขึ้น 35% คนแชร์บทความเพิ่มขึ้น 140%

ทำให้ล่าสุดยอดผู้ใช้งานไลน์ทูเดย์รายเดือนเพิ่มขึ้นจาก 36 ล้านคนเมื่อปีที่ผ่านมา เป็น 44 ล้านคน ณ สิ้นสุดเดือน มี.ค.2563 ถือเป็น 97% ของผู้ใช้งานไลน์ทั้งหมดที่ 45 ล้านคน

ส่วนนายพฤทธิสิทธิ์ ประทีปะวณิช หัวหน้าฝ่ายจัดการแพลตฟอร์มและบริการ ไลน์ ประเทศไทย กล่าวว่า กระแสคนทำงานที่บ้าน ทำให้ยอดการโทรผ่านไลน์บนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 200% เช่นเดียวกับการใช้ไลน์สติกเกอร์ส่งความรักและปรารถนาดี โดย 70% ของชุดสติกเกอร์ขายดีเป็นสติกเกอร์ที่เกี่ยวเนื่องกับโรคโควิด.