สกู๊ปหน้า 1 : ซีรีส์พิลึก“โฮลเซล” มรสุมทัวร์ยุคโควิด-19

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

สกู๊ปหน้า 1 : ซีรีส์พิลึก“โฮลเซล” มรสุมทัวร์ยุคโควิด-19

Date Time: 11 เม.ย. 2563 05:01 น.

Summary

  • ถึงวันนี้...คนทั้งโลกก็ยังสลัดเข้า ไวรัสบูลลี่สัตว์สู่คน “โควิด-19” จาก “นกมีหูหนูมีปีก” ตระกูลค้างคาวไปไม่พ้น

Latest

“พิชัย” เปิดเวทีชวนนักลงทุนเข้าไทย

ถึงวันนี้...คนทั้งโลกก็ยังสลัดเข้า ไวรัสบูลลี่สัตว์สู่คน “โควิด-19” จาก “นกมีหูหนูมีปีก” ตระกูลค้างคาวไปไม่พ้น

ขณะประเทศจีน...เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น จากการปิดโรงพยาบาลสนาม 16 แห่ง ในเมืองอู่ฮั่นไปบวกกับปลดล็อกประชาชนออกมาใช้ชีวิตนอกชายคาบ้านได้

และเลิกพันธนาการให้เที่ยวกันเองภายในมณฑล ก่อนข้ามไปมณฑลอื่น แต่ก็ยังห้ามเที่ยวต่างประเทศแบบไม่มีกำหนด

ผิดกับอิตาลี...ที่รับชะตากรรมแทนจีน ให้ต้องจำกัดผู้คนอยู่แต่ที่พัก ห้ามจัดงานแต่งและงานศพ...โรงภาพยนตร์ ผับบาร์ โรงยิม สระว่ายน้ำ พิพิธภัณฑ์ ลานสกี รีสอร์ต ถูกสั่งปิด กีฬาแข่งขันได้...แต่ห้ามคนเข้าไปดู

ร้านอาหารเปิดได้ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ลูกค้าให้นั่งห่างกัน 1 เมตร...บรรยากาศเช่นนี้หลายคนให้รู้สึกเสมือนว่านี่คือนรกบนดิน ชัดๆ ไม่บันเทิงแสนสุขชื่นมื่นเหมือนในวันวาน

ประเทศเสี่ยงตามมา ได้แก่ เกาหลีใต้ อิหร่าน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สเปน ซึ่งอ่วมไม่ต่างกัน

วันที่ 7 เมษายน 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลง สถานการณ์ในประเทศไทย ระบุตัวเลขป่วยสะสมอยู่ที่ 2,258 คน เพิ่มขึ้น 38 ราย

มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ...ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 27

ย้อนไปก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเมืองไทยจะมีมาตรการคุมเข้มยกเลิกวีซ่าและวีซ่าที่สนามบิน (OAR) แก่ประเทศกลุ่มเสี่ยง จนทั่วโลกขยับปากชมแล้วก็ตาม แต่ทว่า...ในแวดวงการแพทย์ ความมั่นคงทางสุขภาพก็มีกรณีบุคลากรทางการแพทย์ขาดหน้ากากอนามัยปฏิบัติงาน...ประชาชนขัดสนยากจะหามาใช้

อีกทั้งยังขาดแคลนเครื่องป้องกันอื่นๆที่จำเป็น และมีผลต่อการ ทำงานโดยตรงของหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่บุคลากรสาธารณสุขที่ เปรียบเสมือนเป็นแนวหน้าสู้รบกับไวรัสโควิด-19 อีกมากมายจิปาถะ

และ...อีกเรื่องที่สะท้านหัวใจไปไม่แพ้กัน ด้วยฟากฝั่งการท่องเที่ยวก็เหมือนจะมี “ซีรีส์พิลึก”...จากมรสุมโควิด-19 ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อรัฐได้สั่งแอร์ไลน์ทั้งไทยและเทศงดบินสู่สถานีเสี่ยงหลายแห่ง ออกข่าวกำชับให้ “แอร์ไลน์” สายการบินคืนเงินผู้โดยสาร...เหมือนจะโกยคะแนนนิยมไปก่อน

ช่วงเวลานั้นผู้คนในแวดวงนี้ไม่น้อยบอกตรงกันว่าการทำเช่นนี้ เหมือนกับว่ารัฐดูจะบ้องตื้น “ลำไย”...ขาดความรู้ความเข้าใจในระบบแอร์ไลน์ ที่มีเกณฑ์กำหนดการคืนเงินอยู่แล้ว

และ...สำหรับต่างชาตินั้นอาจแตกต่างกันไปในรายละเอียด

“การจะคืนเงิน...ระบุชัด หากเป็นตั๋วชั้นหนึ่งกับชั้นธุรกิจเต็มราคา ออกโดยแอร์ไลน์สามารถทำรีฟันด์ได้ ซึ่งอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตามกรณี

ส่วนชั้นประหยัดอีโคโนมีราคาพิเศษ แอร์ไลน์จะปฏิเสธการคืนเงินสถานเดียว”

อีกทั้ง “ตั๋ว” ที่ซื้อผ่าน “ทัวร์เอเย่นต์” ราคากรุ๊ป อันนี้แน่นอน ...แอร์ไลน์ย่อมปัดความรับผิดชอบให้ผู้โดยสารไปขอคืนจากผู้ขายเอง

เรื่องวุ่นๆจึงเกิดขึ้นในวงจรธุรกิจนำเที่ยวแบบห่วงโซ่ “Tour Supply Chain” คือ “แอร์ไลน์” กับ “โฮลเซล (Wholesale)” ธุรกิจนำเที่ยวรายใหญ่ ระดับ “ยี่ปั๊ว” ผู้มีอำนาจจองที่นั่งบนเครื่องบินรวบยอดได้ตลอดปี เพราะเป็นลูกค้าวอลลุ่มใหญ่

ผูกโยงไปถึงแลนด์โอเปอเรเตอร์ ผู้บริการในพื้นที่ตั้งแต่โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า รถนำเที่ยว ไกด์ ในและนอกประเทศ

โฮลเซลจะขายแบบ B2B ให้คู่ธุรกิจ “รีเทล (Retail)” หรือพ่อค้าปลีก “ซาปั๊ว–ซีปั๊ว” ทัวร์รายเล็กรายย่อยในห่วงโซ่ Supply Chain นำไปขายลูกค้าแบบ B2C คือ Business to Customers จ่ายเงินออกหลักฐานกันตรงนี้

จากนั้นทัวร์รีเทลจะหอบเงินที่ขายได้ไปส่งยี่ปั๊วเป็นค่าเครื่องบิน ค่านำเที่ยวผ่านแลนด์ฯ นี่คือ...เส้นทางทำกินในกลุ่มคนทำทัวร์แต่ครั้น...รัฐสั่งยกเลิกเที่ยวบินช่วงวิกฤติโควิด-19 สถานการณ์ก็ยิ่งสุดว้าเหว่

วิกฤติจึงเกิดซ้ำขึ้นมา...ด้วยแอร์ไลน์ปฏิเสธจ่ายคืนตั๋วกรุ๊ปผ่านซาปั๊วทัวร์รีเทล ที่ยืนกึ่งกลางระหว่างลูกทัวร์กับยี่ปั๊วโฮลเซล

โหมดนี้ถ้ายี่ปั๊วมีคุณธรรมพร้อมคืนเงินซาปั๊วไปคืนลูกทัวร์ B2C ก็เป็นอันจบข่าว...แต่ถ้าบิดพลิ้วอ้างนำเงินไปจ่ายแอร์ไลน์กับแลนด์ฯแล้ว...ข่าวก็ต้องจบเช่นกัน!

คือ...ทัวร์รีเทลตกสวรรค์มารับผิดชอบตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวฯ ซึ่งคุ้มครองผู้บริโภคและควบคุม บ.นำเที่ยว ผู้ออกหลักฐานการรับเงิน โดยแตะไม่ถึงมือโฮลเซลและแอร์ไลน์

ทัวร์รีเทลถึงสุดกลั้นน้ำตานองกับปัญหานี้...ส่วนทางออกซึ่งมีอยู่ทางเดียว คือไปยื่นฟ้องคดีทางแพ่ง เรียกเงินคืนจากเถ้าแก่โฮลเซลหน้าโลหิตเอาเอง...ส่วนจะนานแค่ไหนก็รู้กันอยู่

ซาปั๊วทัวร์รีเทลรายหนึ่งเล่าว่า...“การทำทัวร์พาคนไทยไปทัวร์นอก ถ้าเป็นยุโรป 4 วัน 3 คืน 4 หมื่นถึง 5 หมื่นบาท เกาหลี 1 หมื่น 5 พันถึง 2 หมื่น ญี่ปุ่น 3 หมื่นถึง 4 หมื่น หากทัวร์ 10 ถึง 30 คนประสบปัญหา ทัวร์รีเทลถึงแทบรมเตาถ่านปลิดชีพจากหนี้ที่ท่วมหัว”

เคยเป็นข่าวบ่อยครั้ง...นักท่องเที่ยวถูกลอยแพสนามบินสุวรรณภูมิ หรือไปถูกทิ้งไว้ต่างประเทศ ก็ไม่ใช่ฝีมือใครอื่น...นอกจากโฮลเซลที่รับเงินแล้วเชิดหนี ปลายปีที่แล้วธุรกิจรายใหญ่ชื่อ “ฮ”ก็หนีไปพร้อมเงิน 70 ล้านบาท ต้องฟ้องร้องไม่ตะมุตะมิกันจนวันนี้

“ธุรกิจโฮลเซล”...เติบโตแถบยุโรปเป็น Tour Supply Chain กับทัวร์ไทยมานาน ขณะไทยมีราว 20 แห่ง แบ่งสายเป็น ตลาดยุโรป จีน ญี่ปุ่น มาเลย์ สิงคโปร์ อเมริกามีบ้าง แต่วอลลุ่มเล็ก

นอกจากนี้...ยังกระจายอยู่ในเชียงใหม่ ภูเก็ต โดยฐานใหญ่อยู่กรุงเทพฯ โฮลเซลบางเจ้าขาย B2B ยังรวยไม่พอ จึงควบขาย B2C ไปด้วย...ทัวร์รีเทลทำได้ก็แค่มองตาปริบๆ

เหตุเพราะถูก “ปลาใหญ่ฮุบปลาเล็ก” เข้าให้แล้ว

ประเทศไทยยามวิกฤติหนักหนาสาหัส “โควิด-19”...แพร่ระบาดหนัก สามัคคีคือพลัง จิตสำนึกดี ที่ทุกคนร่วมด้วยช่วยกันป้องกันอย่างเป็นระบบจะช่วยให้การแพร่ระบาดไม่กระจายตัวในวงกว้าง

กระนั้นแล้ว...ความยุติธรรมย่อมต้องมีกับทุกวงการและทุกขณะเวลา ไม่ใช่ในวันที่วิกฤติประเดประดังฝุ่นตลบ...มือใครยาว มีอำนาจ มีพวกพ้อง...จะสาวได้สาวเอาอย่างนี้

ฝากทวงถามท่ามกลางมรสุมโควิด-19 หนักหน่วงเช่นนี้ “ซีรีส์พิลึก” ข้างต้นนี้ ปัญหาได้คลี่คลายลงแล้วหรือยัง.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ