“กขค.” เตือนผู้ให้บริการส่งอาหารถึงบ้าน ที่มีพฤติกรรมแข่งขันทางการค้าไม่เป็นธรรม เช่น ฮั้วกำหนดค่าบริการ ขึ้นค่าบริการจากร้านอาหาร มีโทษหนัก ขณะที่ร้านค้า มอเตอร์ไซค์ แห่สมัครดีลิเวอรี ด้าน “แกร็บ” ยอมลดค่าคอมให้ร้านอาหาร 5% จากสูงสุด 35% เหลือ 30%
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการร้องเรียนผู้ให้บริการส่งอาหารหลายรายเรียกเก็บค่าบริการจากร้านอาหารสูงขึ้นมาก เช่น จาก 20% เป็น 35-40% รวมทั้งเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่งเสริมการขายจากร้านอาหาร เช่น การโฆษณาแนะนำร้านอาหารให้แก่ลูกค้า รวมถึงผู้ให้บริการส่งอาหารหลายรายอาจตกลงร่วมกันในการกำหนดหรือเพิ่มค่าบริการหรือเรียกเก็บค่าธรรมเนียม จนทำให้ราคาจำหน่ายอาหารเพิ่มสูงขึ้น และผู้บริโภคเดือดร้อนว่า กขค.ตรวจสอบพฤติกรรมทางการค้าดังกล่าวที่อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 แล้ว
ขอเตือนผู้บริการส่งอาหารว่า กรณีที่เป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม อันเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ประกอบธุรกิจรายอื่น จะมีโทษปรับทางปกครอง ใน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หรือกรณีที่เป็นพฤติกรรมการใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรม หรือกรณีที่เป็นการตกลงร่วมกันกำหนดอัตราค่าบริการ อันเป็นการผูกขาดหรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขัน จะมีโทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับ 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ และรับเรื่องร้องเรียนที่ 0-2199-5444
ด้านนายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด ทำให้ร้านอาหารรายย่อยต้องปรับตัวเข้าสู่ระบบจัดส่ง (Delivery) อาหารกันมากขึ้น โดยปัจจุบันมีร้านอาหารรายย่อยสมัครเข้ามาเป็นร้านค้าบนแอปพลิเคชันแกร็บเฉลี่ยราว 2,000 ร้านค้าต่อวัน สูงขึ้นกว่าภาวะปกติ 3 เท่า แกร็บจึงได้เร่งขั้นตอนรับสมัครและเปิดร้านค้าให้ได้ภายใน 7-10 วัน จากเดิม 14-21 วัน
นอกจากนั้น ยังมีมาตรการช่วยเหลือร้านอาหารบนแกร็บ ด้วยการปรับลดเพดานค่าคอมมิชชันสำหรับพาร์ตเนอร์ร้านอาหาร (ไม่รวม GrabKitchen) สูงสุดจาก 35% เป็น 30% ครอบคลุมทั้งร้านค้าเดิมและร้านค้าใหม่ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับร้านอาหาร โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.63 เป็นต้นไป
นายธรินทร์ กล่าวว่า แกร็บยังเร่งขยายการให้บริการจัดส่งอาหาร เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในต่างจังหวัดด้วย โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-มี.ค.) แกร็บฟู้ดได้เปิดให้บริการเพิ่มขึ้นใน 8 จังหวัด อันได้แก่ ชลบุรี ระยอง นครปฐม สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ลำปาง อุตรดิตถ์ และมหาสารคาม พร้อมตั้งเป้าเปิดบริการเพิ่มอีก 9 จังหวัดในสามเดือนข้างหน้า อาทิ ราชบุรี เพชรบุรี สุรินทร์ หนองคาย เป็นต้น
“เพื่อรองรับความต้องการในการหารายได้ ในเดือน เม.ย.นี้ แกร็บมีแผนเปิดรับพาร์ตเนอร์ผู้จัดส่งอาหารและพัสดุเพิ่มอีกกว่า 35,000 อัตราเพื่อรองรับการให้บริการที่เติบโตจากการที่คนไทยไม่ต้องการเดินทางออกจากบ้าน จากที่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้รับพาร์ตเนอร์เพิ่มไปแล้วกว่า 29,000 คน และเปิดให้คนขับรถยนต์ (แกร็บคาร์) ใช้รถยนต์ขับส่งอาหารแทนบริการการเดินทางได้ เพื่อเป็นการปลดล็อกการสร้างรายได้ให้กับพาร์ตเนอร์ โดยนำร่องบริการจัดส่งอาหารผ่านรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีพาร์ตเนอร์คนขับเข้าร่วมแล้วมากกว่า 10,000 คน”.