คาบลูกคาบดอก : แหลมฉบังระยะที่ 3

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

คาบลูกคาบดอก : แหลมฉบังระยะที่ 3

Date Time: 18 มี.ค. 2563 05:04 น.

Summary

  • ในวิกฤติยังมีโอกาส การเดินหน้าก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของ อีอีซี หลังจากที่มีคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด

Latest

“พิชัย” เปิดเวทีชวนนักลงทุนเข้าไทย

ในวิกฤติยังมีโอกาส การเดินหน้าก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของ อีอีซี หลังจากที่มีคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด ให้คำสั่งทางปกครองของคณะกรรมการคัดเลือกโครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

นอกจากนี้ ยังวินิจฉัยให้มีการยกคำฟ้องของกลุ่ม เอ็นซีพี เนื่องจากการไม่ลงนามในเอกสารที่กำหนด ให้ถือเป็นสาระสำคัญ ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกับผู้ยื่นรายอื่น ทั้งนี้ เอ็นซีพี ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลของการไม่ลงนามดังกล่าว จึงให้ถือว่าเป็นความบกพร่องของ กลุ่มเอ็นซีพี เอง

จึงถือว่าคำสั่งตัดสิทธิ์ไม่รับซองที่ 2 ของคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้โครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เดินหน้าต่อไปเสียที

เรื่องนี้ เดิม เรือโทยุทธนา โมกขาว ผอ.การท่าเรือแหลมฉบัง ได้ยืนยันถึงความคืบหน้าในการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 เป็นท่าเทียบเรือ F วงเงิน 84,361 ล้านบาท ที่อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาการประกวดราคาของกลุ่มกิจการค้าร่วม จีซีพี แต่มีคณะกรรมการบางคนมีข้อสงสัยในส่วนของโมเดลทางการเงินของกลุ่ม จีซีพี และมีการให้กลุ่ม จีซีพี มาชี้แจงกับคณะกรรมการแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

ในเวลาเดียวกันทางกลุ่มผู้เข้ายื่นประมูลได้ไปยื่นฟ้องศาลปกครอง ด้วยเช่นกันในที่สุดเมื่อมีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดและความเห็นของคณะกรรมการไม่ได้ติดใจหลังการชี้แจงของกลุ่มจีซีพี การท่าเรือฯ จะได้เริ่มดำเนินการทันที โดยโครงสร้างพื้นฐานที่จะต้องลงทุนในโครงการ มีจำนวน 4 งาน รวมมูลค่า 30,800 ล้านบาท ประกอบด้วยงานก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ มูลค่า 6,400 ล้านบาท งานถมทะเล มูลค่างาน 22,000 ล้านบาท งานสร้างรางรถไฟเชื่อมต่อ 400 ล้านบาท และงานจัดซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ภายในท่าเรือ 2,000 ล้านบาท

ขั้นตอนต่างๆ มีการตรวจสอบร่างทีโออาร์ และ รายงานวิเคราะห์ผลกระทบกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของโครงการถมทะเล โดย คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีการเปิดประมูลงานถมทะเลและงานสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในท่าเรือก่อน จากนั้นใช้เวลาในการพิจารณาผู้ผ่านการคัดเลือกระหว่างเดือน พ.ค.-มิ.ย. และมีการประกาศผลในเดือน ก.ค.

โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ความสำคัญของโครงการอยู่ที่การวางระบบการคมนาคมขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย เพื่อพัฒนายุทธศาสตร์ของประเทศไทยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมขั้นสูง ด้วยระบบเครือข่ายคมนาคมที่ครบวงจร ด้วยระบบการขนส่งแบบอัตโนมัติ หรือ Automation แบบไร้รอยต่อ

การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าเพิ่มเป็น 7 ล้านทีอียูต่อปี และเมื่อเปิดบริการครบทุกท่า จะมีขีดความสามารถรองรับตู้สินค้าได้ประมาณ 18 ล้านทีอียู อันจะเป็นปัจจัยเสริมการสร้างความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืนด้วย

ประเทศไทยจะได้เป็นประตูการค้าของภูมิภาคนี้เสียที.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ