นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. ที่สำรวจจากประชาชนตัวอย่างทั่วประเทศ 2,247 คน ว่า ดัชนีปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 67.3 ลดจาก 68.3 เทียบกับเดือน ธ.ค.2562 ต่ำสุดในรอบ 69 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2557 ดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ที่ 45.0 ลดจาก 45.8 ต่ำสุดในรอบ 220 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.2544
ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคต (อีก 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ที่ 76.8 ลดจาก 78.1 ต่ำสุดในรอบ 68 เดือน นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2557 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 54.9 ลดจาก 56.0 ต่ำสุดในรอบ 69 เดือน, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานอยู่ที่ 63.8 ลดจาก 64.8 ต่ำสุดในรอบ 217 เดือน นับจากเดือน ม.ค.2545 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 83.0 ลดจาก 84.2
“ดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการปรับตัวลดลง มาจากความกังวลต่อไวรัสโคโรนาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประชาชน การทำธุรกิจ และกรณีเงินบาทอ่อนค่า มีผลต่อเงินไหลเข้าประเทศและราคาสินค้าส่งออก, การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ที่ล่าช้า ภัยแล้ง ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ราคาพืชผลเกษตรยังต่ำ และดัชนีหุ้นลดลง ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและยังกระจุกตัว รวมทั้งกังวลค่าครองชีพและราคาสินค้าทรงตัว อยู่ในระดับสูง รายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น”.