นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค.ได้คืนสิทธิ์ให้กับผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ในมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิม ช้อป ใช้” ที่ไม่สามารถเริ่มใช้สิทธิ์ได้ทันภายใน 14 วัน หลังจากได้รับข้อความ SMS ยืนยันสิทธิ์ ทั้งเฟสแรกและเฟส 2 จำนวนทั้งสิ้น 1.1 ล้านราย เนื่องจากตามหลักเกณฑ์เดิมจะต้องใช้สิทธิ์ชิม ช้อป ใช้ ในจังหวัดที่ไม่ใช่ภูมิลำเนาตัวเองจึงทำให้มีประชาชนบางส่วนใช้สิทธิ์ไม่ทัน
ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกคืนสิทธิ์จำนวน 1.1 ล้านราย จะสามารถใช้กระเป๋าเงินช่องที่ 2 ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตามเงื่อนไขที่ประกาศไปแล้ว อาทิ คืนเงินให้ 15% หากยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท โดยประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอยได้ทุกจังหวัด รวมถึงจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนาตัวเอง จนถึงวันที่สิ้นสุดโครงการ 31 ม.ค.63 แต่ครั้งนี้จะไม่ได้รับสิทธิ์ในกระเป๋าเงินช่อง 1 ที่ให้เงิน 1,000 บาทไปใช้แล้ว สำหรับผู้ที่เคยผ่านการยืนยันตัวตนจากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลและถ่ายรูปแสดงใบหน้าในแอปพลิเคชันเป๋าตังแล้ว สามารถใส่รหัสเดิมได้เลย เพื่อเปิดใช้งานในแอปพลิเคชันและรับสิทธิ์ได้ทันที ส่วนผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนต้องดำเนินการตามขั้นตอน
ด้าน น.ส.วิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เผยว่า สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ “ชิม ช้อป ใช้” ที่ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง 2 ในแอปเป๋าตัง ซึ่งจะได้รับเงิน (แคชแบ็ก) คืนนั้น จะได้รับเงินคืนงวดแรก 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นรอบการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 27 ก.ย.-30 พ.ย.62 ขณะที่งวดสองจะเริ่มจ่าย 15 ม.ค.63 และงวดสามคืน 15 ก.พ.63 โดยผู้ใช้สิทธิ์สามารถตรวจสอบยอดเงินคืนตนเองได้ที่แอปเป๋าตัง
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เผยว่า กระทรวงดีอีเอสได้ร่วมกับกระทรวงการคลัง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และธนาคารกรุงไทย ถึงความร่วมมือผ่านมาตรการชิม ช้อป ใช้ ทั้ง 3 เฟส ด้วยการขยายการใช้จ่ายในส่วนของกระเป๋าเงินช่องที่ 2 ให้สามารถซื้อสินค้าและบริการผ่าน www.thailandpostmart.com โดยเมื่อซื้อสินค้าในเว็บไซต์ดังกล่าวจะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ รับเงินคืนจากชิม ช้อป ใช้ 15-20% เมื่อซื้อสินค้าหมวด ชิม ช้อป ใช้ ครบ 1,000 บาทขึ้นไป รับคูปองส่วนลด 5% สำหรับใช้ซื้อสินค้าในหมวดอื่นๆในครั้งถัดไป เป็นต้น.